[Trans] 121212 MBC KOICA's dream Tanzania - Nichkhun, Taecyeon ★ (1)

ประโยคแรกของนิชคุณ: แปลกใจจริงๆ ครับ มันเหนื่อยมาก แต่ทำไมผมถึงยิ้มได้ตลอดเลยนะ?

ทีมแทนซาเนียประกอบด้วย นักแสดง - พัคซองอุง, อีแทรัน, คิมฮยอก นักร้อง - นิชคุณ, แทคยอน อาสาสมัครจาก MBC ชาย 13 คน, หญิง 10 คน รวมทั้งหมด 28 คน

ทั้งหมดออกเดินทางจากสนามบินอินชอน ใช้เวลา 9 ชั่วโมงเดินทางถึงดูไบ รอเปลี่ยนเครื่องอีก 6 ชั่วโมง และบินจากดูไบ 5 ชั่วโมงไปยังดาร์เอสซาลาม ประเทศแทนซาเนีย รวมใช้เวลาเดินทาง 20 กว่าชั่วโมง

หลังจากนั้นยังต้องนั่งรถ และต่อด้วยเรือเพื่อข้ามไปยังเกาะ เกาะซานิงก้าที่จะเข้าไปไม่มีน้ำและไฟฟ้าจึงเป็นสถานที่ที่ลำบากมาก เกาะนี้ตั้งอยู่ห่างจากดาร์เอสซาลามเมืองหลวงทางเศรษฐกิจของประเทศ 5 ชั่วโมง มีประชากรบนเกาะประมาณ 400 คน การเคลื่อนย้ายไปยังเกาะก็ยังมีแค่เรือไม้ลำเล็ก อาสาสมัครต่างก็กลัวว่าเรือไม้จะแตกและล่ม

ซานิงก้า เกาะที่ไม่มีน้ำ..สถานที่ที่ถึงแม้จะล้อมรอบด้วยแม่น้ำ แต่น้ำที่ได้ก็มีแต่น้ำเค็ม
ซานิงก้า เกาะที่ไม่มีอุปกรณ์การแพทย์..สถานที่ที่ไม่มีแม้แต่หมอหรือพยาบาล เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทุกข์ยาก
ซานิงก้า เกาะที่ไม่มีไฟฟ้า, อุปกรณ์สื่อสาร และเต็มไปด้วยแมลงมีพิษ

ในที่สุดอาสาสมัครโครงการ KOICA's dream ก็เดินทางถึงเกาะซานิงก้า โดยใช้เวลากว่า 25 ชั่วโมง แต่สาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องตกใจเมื่อไปถึงคือ สิ่งที่พบแตกต่างไปจากที่คิดมาก ที่นี่มีแต่บ้านซึ่งทำจากไม้แล้วก็โคลน ไม่รู้ว่าคนที่นี่อยู่ได้อย่างไร แน่นอนว่าไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าเทียบเรือ อาสาสมัครจึงต้องถอดถุงเท้าและเดินเท้าเปล่าย่ำโคลนเข้าเกาะ ซึ่งนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของความลำบาก

เมื่อไปถึงเกาะ อาสาสมัครได้ทักทายกับชาวบ้านบนเกาะอย่างเป็นทางการ ตัวแทนชาวบ้านขอต้อนรับอาสาสมัครอย่างจริงใจ และขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ทุกคนเดินทางมาถึงเกาะได้อย่างปลอดภัย

งานแรกสุดของอาสาสมัครคือ 'การลำเลียงสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต 2 สัปดาห์' ซึ่งจำเป็นต้องรีบลำเลียงของก่อนที่น้ำจะขึ้น
อาสาสมัครคนหนึ่งแซวนิชคุณว่า ดูแก่ขึ้นไปเลยนะเนี่ย นิชคุณถึงกับไม่มีคำพูด.... นิชคุณถึงแม้จะเป็นนักร้องชื่อดัง แต่สำหรับที่นี่แล้ว เขาก็เป็นแค่อาสาสมัครคนหนึ่ง

วันแรกที่ไปถึงก็เจอปัญหาในเรื่องการผ่านด่านศุลกากร ทำให้สิ่งของจำเป็นพื้นฐานยังส่งมาไม่ถึง ทำให้ไม่มีแม้แต่ถ้วยที่จะเอามาใส่รามยอน จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการกินในซองรามยอนนั่นเลย ส่วนตะเกียบก็ใช้กิ่งไม้ที่หาได้จากแถวนั้น แต่ยังไม่ทันได้กินอาหารกลางวัน ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ แม้แต่การทานข้าวหนึ่งมื้อก็ดูจะเป็นอะไรที่ยากมาก

อาสาสมัครคนหนึ่งพูดติดตลกว่ายอมแพ้แล้ว ยอมแพ้ตั้งที่เรือหยุดเทียบฝั่ง แต่สุดท้ายอาสาสมัครก็ได้ทางอาหารมื้อแรกเป็นรามยอน

จากนั้นพวกเขาก็ต้องรีบขนย้ายข้าวของไปที่แคมป์ก่อนที่จะมืด
นิชคุณถึงกับเอ่ยปากว่าไม่ใช่เล่นเลยที่ต้องแบกกระเป๋าหนัก 20 กิโล ซึ่งระยะจากหาดไปถึงแคมป์จะต้องเดินเท้าเข้าไปกว่า 2 กม. ที่แย่ไปกว่านั้นคือพาหนะในการเคลื่อนย้ายมีแค่รถเข็นที่จะต้องเข็นกันไปเองบนพื้นทางที่เป็นดินโคลนจึงยิ่งกินแรงมากขึ้น

อุปสรรคที่เจอตั้งแต่วันแรกทำให้อาสาสมัครต่างอึ้งกันถ้วนหน้า ในขณะที่ส่วนหนึ่งลำเลียงสิ่งของ อาสาสมัครอีกส่วนก็ตั้งเต้นท์ซึ่งจะใช้เป็นที่พักกว่า 2 สัปดาห์ในการอยู่ที่นี่

Saninga Project
① ทีมรีโมเดลลิ่งโรงเรียน
② ทีมบริการด้านสุขภาพ คอยดูแลสุขภาพของชาวบ้าน
③ ทีมสนับสนุนด้านอาหาร
④ ทีมให้การศึกษาแก่เด็กๆ บนเกาะ
⑤ ทีมประดิษฐ์และสร้างเทคโนโลยีที่เหมาะสมต่อชาวบ้าน
⑥ ทีมต่อเรือด้วยไม้เพื่อใช้ในเวลาไปเอาน้ำดื่มหรือลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉิน

อาสาสมัครได้แบ่งกันไปเดินสำรวจสภาพหมู่บ้าน สิ่งแรกที่ตกใจคือสภาพบ่อน้ำซึ่งชาวบ้านนำมาใช้กัน
นิชคุณ: ที่นี่เป็นแหล่งยุงเลยแหละครับ อาณาจักรยุงจริงๆ ครับ
ในน้ำเต็มไปด้วยลูกน้ำ แถมน้ำก็เค็มมาก มันคือน้ำทะเลสินะ

ชาวบ้านไม่ได้ใช้น้ำจากบ่อนี้มาตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน
และอาสาสมัครก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อชาวบ้านบอกว่าพวกเขาแก้ปัญหาเรื่องน้ำดื่มโดยไปรับน้ำมาจากอีกที่ ซึ่งอยู่ไกลจากเกาะไป-กลับประมาณ 8-9 ชม.

ในส่วนของโรงเรียน สภาพพื้นดินในโรงเรียนจัดได้ว่าแย่มาก ริมผนังห้องเรียนก็เป็นรังมด ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กๆ

เวลากลางคืนบนเกาะซานิงก้ายิ่งลำบากกว่าตอนกลางวันมาก
คืนแรกบนเกาะนี้ ทีมอาหารเตรียมข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยความที่อุปกรณ์ไม่พร้อม จึงเป็นเรื่องเสี่ยงดวงของอาสาสมัครแต่ละคน เพราะข้าวมีทั้งตรงที่ไหม้, ไม่สุก, สุกกำลังดี ส่วนชามข้าวก็ทำมาจากขวดน้ำตัดครึ่ง

และปัญหาใหญ่สุดสำหรับคืนแรกคือชีเมนต์ ซีเมนต์แต่ละกระสอบหนัก 50 กก. มีทั้งหมด 120 กระสอบ อาสาสมัครต้องขนย้ากระสอบซีเมนต์ทั้งหมดในสภาพที่ไม่มีไฟฟ้า (นิชคุณ: มองไม่ค่อยเห็นเลยครับ~)

เป็นงานที่ลำบากมากในการขนกระสอบซีเมนต์โดยมีแค่ไฟจากไฟฉายและตะเกียงเล็กๆ
นิชคุณ: ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปก็คงจะง่ายแล้วครับ) แต่ทุกคนก็ช่วยกันขนกระสอบจนหมด จบงานในวันแรกอย่างเป็นทางการ

PD: จะโอเคหรอครับถ้าไม่อาบน้ำ?
นิชคุณ: ครับ? ฮ่าๆ ถ้าอาบด้วยน้ำที่มีเกลือผสมอยู่ด้วยนี่... ไม่รู้สิครับ
อาสาสมัคร: บอกไปตามตรงเถอะว่าไม่อยากอาบด้วยน้ำเค็ม
นิชคุณ: ครับ ตรงๆ เลยนะ ไม่อยากอาบครับ ฮ่าๆๆ

แต่ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะยังมีสัมภาระเหลืออยู่เต็มเรือ อาสาสมัครจึงต้องร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันขนสัมภาระอีกครั้ง จากนั้นก็เดินทางถึงแคมป์เวลา 4 ทุ่ม

อาสาสมัครทุกคนต่อแถวรับข้าว และทีมอาหารก็แจกใบงาใช้กินกับข้าวให้คนละห่อ (นิชคุณ: แค่นี้หรอครับ? นี่หมดแล้วใช่มั้ย? 555)

PD: ทานข้าวอีกสิคะ
นิชคุณ: ความจริงต้องทานอีก แต่อยากนอนแล้วครับ ตอนนี้ง่วงนอนเลยกินข้าวไม่ลง

จบวันแรกบนเกาะซานิงก้า เช้าวันรุ่งขึ้นอาสาสมัครบางส่วนอยากแปรงฟันแต่ก็ไม่มีน้ำใช้กลั้วคอ อยากสระผมแต่เป็นน้ำเค็ม เลยทำอะไรไม่ได้

ทีมต่อเรือ) จะต้องต่อเรือให้เสร็จภายในสองสัปดาห์เนื่องจากบนเกาะซานิงก้าไม่มีน้ำดื่ม มีเพียงน้ำเค็มเท่านั้น จึงต้องรีบต่อเรือเพื่อนำไปใช้เอาน้ำดื่มและขนส่งคนป่วย

ทีมเทคโนโลยี) จะติดตั้งเครื่องดูดความชื้นจากหมอก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะสามารถรวบรวมน้ำสะอาดได้โดยใช้หมอก

นิชคุณ: งั้นเราก็สามารถผลิตน้ำได้ที่นี่เลยหรอครับ?
อาสาสมัครแทนซาเนีย: ถ้ามีหมอกเพียงพอ เราก็จะผลิตน้ำได้
นิชคุณ: ชาวบ้านก็จะมีน้ำใช้จากเครื่องนี้ โดยไม่ต้องออกไปเอาน้ำจากข้างนอกใช่มั้ยครับ?
อาสาสมัครแทนซาเนีย: อย่างที่บอกคือถ้ามีหมอกมากเพียงพอ ชาวบ้านก็จะใช้ประโยชน์ได้ครับ
นิชคุณ: อันนี้สำคัญมากครับ เราต้องติดตั้งให้ได้!

นิชคุณ: กังวลมากครับ มันไม่เกี่ยวกับว่าเราเหนื่อยมั้ย แต่ถ้าเราติดตั้งเครื่องนี้แล้วชาวบ้านยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ มันจะกลายเป็นแค่สัมภาระชิ้นใหญ่ เป็นขยะชิ้นใหญ่ของชาวบ้าน ผมเลยค่อนข้างกังวลอยู่มากครับ

ในที่สุดทีมเทคโนโลยีก็ติดตั้งเครื่องดูดความชื้นสำเร็จ ตอนนี้เหลือแค่รอว่าพรุ่งนี้จะมีน้ำมากน้อยแค่ไหนในแท้งก์

PD: ตอนนี้กำลังจะไปไหน?
นิชคุณ: ไปตักน้ำครับ น้ำที่สำคัญที่สุด! กำลังจะไปตักน้ำมาใช้ล้างครับ

นิชคุณและคุณโบรัมแสดงความกล้านั่งเรือออกไปตักน้ำเพื่อเอามาใช้ชะล้าง (นิชคุณ: โอ๊ะๆ อันนี้อันตรายมากเลย จริงๆ นะ) โดยต้องนั่งเรือเล็กแล้วไปเปลี่ยนขึ้นเรือลำใหญ่ขึ้นมากอีกหน่อย

นิชคุณ: มีเรื่องที่ต้องบอกตามตรงครับ ความจริงตอนแรกเราตั้งใจว่าจะนั่งเรือลำเล็กออกไป มันเป็นเรือที่ชาวบ้านใช้กันน่ะครับ แต่เราต้องนั่งไปกลับกว่า 8 ชม. เราเลยตัดสินใจใช้เรือลำใหญ่แทน
สิ่งที่ตกใจมากคือเราคิดว่าเข้ามาถึงเกาะแล้วจะได้อาบน้ำ แต่เพราะเป็นน้ำที่มีเกลือผสมอยู่ จะใช้อาบก็ไม่ได้ ใช้ดื่มก็ไม่ได้

แล้วอยู่ดีๆ เรือที่นิชคุณกับคุณโบรัมนั่งออกไปก็หยุดนิ่งกลางทาง
นิชคุณ: ทำไมถึงหยุดครับ?
ชาวบ้าน: ตอนนี้น้ำตื้นเลยต้องดับมอเตอร์ และรอให้น้ำสูงขึ้นจนถึงระดับที่เรือจะไปได้
ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องรอให้น้ำขึ้นเพียงอย่างเดียว

นิชคุณ: เพลงที่ชอบที่สุดคือเพลงอะไรหรอครับ?
คุณโบรัม: เพลง 좋아 보여 ของ Verbal Jint
นิชคุณ: 좋아 보여 หรอ?
คุณโบรัม: ไม่รู้จักเพลงนี้หรอ? อ๊ะ จริงสิ! ฉันชอบเพลงทูพีเอ็มตะหาก!
นิชคุณ: ช้าไปละ ช้าไป

ทั้งสองคนรอเวลาอยู่เกือบชั่วโมง เรือถึงสามารถติดเครื่องได้ แต่อยู่ดีๆ เรือก็หยุดอีก
นิชคุณ: ถึงแล้วหรอครับ?
ชาวบ้าน: พวกเราก็มาตักน้ำจากตรงนี้ไปใช้เหมือนกัน

ตอนแรกที่สองคนได้ยินว่าชาวบ้านไปเอาน้ำจาก 'มาโทซา' ก็คิดว่าจะเป็นบ่อน้ำหรืออะไรแบบนั้น แต่จริงๆ คือไม่ใช่

นิชคุณและคุณโบรัมช่วยกันตักน้ำใส่ถังๆ ละ 20 ลิตร ทั้งหมด 20 ถัง เพราะฉะนั้นอาสาสมัครจะมีน้ำใช้ทั้งหมด 4000 ลิตร

นิชคุณ: ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังตกแล้ว ช่วยรีบพาเรากลับไปเร็วๆ หน่อยนะครับ~ เพราะอาสาสมัครคนอื่นรอเราสองคนอยู่

การออกไปเอาน้ำครั้งนี้กินเวลาไปแปดชั่วโมงกว่า

PD: ล้าใช่มั้ยครับ?
นิชคุณ: ครับ? *ยิ้มมม*
คุณโบรัม: ชาวบ้านออกมาเอาน้ำกัน 2 วันครั้ง พวกเขาสุดยอดกันมาก
นิชคุณ: พวกเขาต้องพายเรือเองด้วย คงจะเหนื่อยมากน่าดู
ชาวบ้าน: *#&5&#)@!*#
นิชคุณ: ไม่หรอครับ?

พอกลับไปถึงเกาะนิชคุณกับคุณโบรัมบอกเพื่อนๆ อาสาสมัครว่าต้องใช้กันอย่างประหยัดๆ นะ
นิชคุณ: ไม่กล้าใช้เลยครับ ต่อไปถ้ามีคนที่ใช้น้ำเปลืองนะ พวกเราจะต้องดุแน่ๆ ครับ เพราะพวกเรารู้แล้วว่าน้ำสำคัญมากแค่ไหน

พอเช้ามือเวลาตีห้านิชคุณก็ตื่นขึ้นมาแล้วไปปลุกคุณคิมฮยอกเพื่อไปดูผลงานเครื่องดูดความชื้นจากหมอกที่พวกเขาติดตั้งกัน
นิชคุณ: ผมอยากรู้ว่าตอนนี้เครื่องที่เราติดตั้งกันเป็นไงบ้าง ทั้งกังวลแล้วก็ตื่นเต้นเลยครับ จึงอยากรีบไปดู
แต่พอคนในทีมไปดูแล้วก็ต้องงง เพราะไม่มีน้ำสักหยด

lll Kor-Thai translated by Loverzai★ lll
Do not edit, re-post without permission!

Reply · Report Post