sodaisy95

🧸🎈💙 · @sodaisy95

22nd Aug 2018 from TwitLonger

ํyellow beetle #ดซชานแบค


yellow beetle
chanbaek
#ดซชานแบค




ชีวิตช่วงเช้าที่แย่ที่สุด คือการต้องมาอยู่บนถนน ติดอยู่บนนี้ไปไหนไม่ได้ ได้แต่ปล่อยคันเร่งเหยียบเบรก ถอนหายใจด้วยความเบื่อ ฟังเพลงจนครบทั้งโลกแล้วก็ยังไม่ถึงที่หมายสักที

แล้วตอนนี้ชานยอลก็กำลังถอนหายใจอีกหนึ่งครั้ง เพื่อให้กำลังใจตัวเองในการผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนี้ไป พ้นจากสิ่งที่เรียกว่ารถติดตรงนี้ ก็ต้องไปต่อสู้กับการแย่งชิงที่จอดรถอีก มันไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง

ไม่สิ...อย่างน้อยมันก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทุกวันของชานยอลรู้สึกดีขึ้นมาได้

รถเต่าสีเหลืองที่จะติดไปด้วยกันทุกวัน ตรงปั๊มน้ำมันก่อนจะถึงมหาวิทยาลัยประมาณห้ากิโลเมตร

ครั้งแรกที่เจอรถเต่าสีเหลืองเหมือนมัสตาร์ดคันนี้นั้น ชานยอลจำได้ว่าเขากำลังฟังเพลงของนักร้องวัยรุ่นชื่อดังอยู่ และท่ามกลางถนนที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ รถเต่าคันนี้ดึงดูดความสนใจของเขาได้มากที่สุดแล้ว

แล้วมันก็ดึงดูดมากขึ้นไปอีก เมื่อเขาเจอรถเต่าคันนี้ทุกวัน ออกเร็วก็เจอ ออกช้าก็เจอ ออกปกติก็เจอ

เหมือนวันนี้ ที่เขาก็เจอรถเต่าสีเหลืองอีกแล้ว และเราก็ขยับต่อสู้รถติดไปพร้อมๆกัน

ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่สิ่งที่รู้สึกได้คือคนขับรถคันนี้ต้องน่ารักเหมือนสีรถแน่ๆ

ชานยอลก็ไม่เคยเห็นหรอกว่าเป็นใคร ก็แค่คิดเฉยๆว่าคงเป็นแบบนั้น เพราะเห็นแล้วยิ้มได้ทุกที ไม่ว่ารถจะติดขนาดไหน

แต่มันก็เป็นช่วงที่เขาเลี้ยวเข้ามหาวิทยาลัย ที่รถเต่าสีเหลืองคันนั้นจะหายลับจากสายตาไป

เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร ไม่ได้คิดจะตามไปหรืออะไร แต่มันเหมือนเป็นความสบายใจอย่างหนึ่งในชีวิตของชานยอล เป็นอารมณ์ประมาณว่า อ๋อ รถคันนี้นี่เอง น้องเต่าคันนี้อีกแล้ว เต่าน้อยคันนี้สินะ

ชานยอลเคยเล่าเรื่องน้องเต่าคันนี้ให้เพื่อนอย่างจุนมยอนฟัง เพื่อนก็บอกว่ามันเป็นความบังเอิญที่ตลกดี ได้เจอทุกวันก็น่าแปลกใจเหมือนกัน

แต่ก็นะ...พ้นจากช่วงเช้าที่น่าโมโห การเรียนที่น่าเบื่อ เพราะเสียงอาจารย์เป็นโมโนโทน แล้วก็ตอนเย็นที่ต้องไปห้างสรรพสินค้า เพราะเพื่อนจะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่ ขอร้องให้ไปด้วยกัน ช่วยกันดูช่วยกันเลือก

“รถมันติดเนี่ย ไอ้เหี้ย” ชานยอลทุบพวงมาลัยรถ “บอกให้นั่งรถเมล์มา จอดรถไว้ที่มอก็สิ้นเรื่อง”
“แล้วขากลับอ่ะ ?”
“ก็รถเมล์นั่นแหละ กูล่ะเบื่อจริงๆ”
“เอาหน่า คนเค้าก็ติดกันหมด มึงก็ใจเย็นๆหน่อย”
“กูเกลียดรถติด !”

จุนมยอนไม่ค่อยเข้าใจเพื่อนเท่าไหร่ เกลียดรถติดแล้วทำไมไม่เลือกมหาวิทยาลัยชานเมือง เรียนในเมืองแบบนี้ รถไม่ติดมันเป็นไปไม่ได้

ชานยอลบ่นแล้วบ่นอีก บ่นจนกว่ามันจะถึง กว่าจะได้จอดรถ จะบ่นมันต่อไปเรื่อยๆ จะไม่หยุดเด็ดขาด

รองเท้าที่เพื่อนมันจะซื้อนั้นเป็นรองเท้าที่จริงๆมันก็เลือกแบบมาจากบ้าน ให้เขามาเป็นเพื่อนไปอย่างนั้น แค่เพราะว่าวันนี้มันไม่อยากมาคนเดียว มันวางแผนว่าจะไปกินก๋วยเตี๋ยว จะสั่งสักสี่ชาม

ยังไม่ได้บอกไปกินด้วยเลย โคตรจะมัดมือชกกัน

ชานยอลจอดรถเกือบจะชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า เขาลงจากรถด้วยความหงุดหงิดจากรถที่ติดอย่างมหาศาล โชคดีที่ไม่ต้องวนหาที่จอดรถ ไม่อย่างนั้นคงได้หงุดหงิดกว่านี้

“...ไม่รู้เหมือนกันอ่ะแม่ มันสตาร์ทไม่ติด แบคก็ดูไม่เป็น”

เสียงคนคุยโทรศัพท์ดังมาจากทางซ้าย

“จำได้ว่าเก็บเบอร์ช่างไว้นะ แต่มันหายไปไหนไม่รู้อ่ะ แล้วยามเยิมอะไรก็หายหมด ไปไหนกันหมดเนี่ย” เสียงฟังดูหงุดหงิด “น้องบี ทำไมทำแบบนี้เนี่ย !”
“รถเสียหรอ ?” จุนมยอนหันมาถามเขา
“คงงั้น” ชานยอลหันไปมองบ้าง “คง...”

นั่นมันน้องเต่า น้องเต่าสีเหลืองเหมือนคันนั้นเลย
ถึงทะเบียนจะยังไม่รู้ แต่ว่าสีมันใช่เลย

“...เดี๋ยวกูมานะ”
“ฮะ ?”

ชานยอลเดินตรงไปที่น้องเต่าคันนั้น คันที่เจ้าของมันกำลังทำหน้าบึ้งตึง แต่หัวใจของชานยอลกลับเต้นผิดจังหวะเพราะ...

แก้มกลมๆกับริมฝีปากบูบี้นั่น...

“มีอะไรรึเปล่าครับ ?”
“ครับ ?” เจ้าของรถหันมามองเขา “เอ่อ...รถมันสตาร์ทไม่ติด”
“เดี๋ยวผมดูให้”
“เอ่อ...ครับ” อีกฝ่ายถอยไปอีกด้านให้เขาเข้าไปดูให้ “ขอบคุณมากนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ”

ชานยอลอาศัยจังหวะเข้าไปดูเครื่องยนต์ เอียงตัวไปด้านหน้าเพื่อดูทะเบียนรถ และมันก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอีก เมื่อมันเป็นทะเบียนเดียวกับที่เขาเห็นทุกวัน และเห็นมาตลอด

ให้ตาย...แอบใจเต้นแรงเหมือนกันนะเนี่ย

มันเป็นความรู้สึกที่เขาอธิบายไม่ได้ มันเหมือนคนที่เจอกันทุกวัน ได้พูดคุยกันผ่านความรถติดบนท้องถนน แม้ว่ามันอาจจะเป็นเขาแค่ฝ่ายเดียวที่คิดแบบนั้น แต่ว่ามันก็ไม่เป็นไรหรอก

ชานยอลมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์บ้าง เพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆ เวลาว่างเขาก็ชอบไปเดินดูรถบ้าง ดูรายการในเว็บบ้าง เป็นความบันเทิงในชีวิตอีกอย่างที่เขาชอบทำ

“มันเป็นไรวะ ?” จุนมยอนมาช่วยดู ถึงแม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตาม
“ดูอยู่...ลองไปสตาร์ทรถหน่อยได้ไหมครับ ?”
“ครับๆ” อีกฝ่ายกุลีกุจอไปเปิดประตูทางด้านฝั่งคนขับ สตาร์ทรถตามที่เขาบอกให้ทำ
“แบตเตอรี่น่าจะหมดครับ” ชานยอลมองเห็นสีแดงผ่านช่องบนแบตเตอรี่ “เดี๋ยวผมจัมพ์สตาร์ทให้ มีสายอยู่ข้างหลังรถพอดี”
“ครับๆ ขอบคุณมากครับ”

ชานยอลเดินกลับไปที่รถตัวเอง ด้านหลังรถมีสายสำหรับจัมพ์สตาร์ทแบตเตอรี่รถยามฉุกเฉิน ตอนที่เขาเดินมานั้น อีกฝ่ายก็ทำตัวมีมารยาทในการรับความช่วยเหลือได้ดี ด้วยการเดินตามเขามาด้วย แต่ตัวชานยอลเองก็ไม่ได้หันไปมองหรอก เขาก็ทำแค่เปิดท้ายรถ หาสายที่จำได้ว่าม้วนแล้วโยนเอาไว้ในนี้

“เจอแล้ว...ครับ ?”
“เอ่อ...เปล่าครับ” อีกฝ่ายส่ายหน้ากลับมา ใบหน้าดูตื่นเต้นแปลกๆ
“ถือไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมเลื่อนรถไป จะได้ไม่ต่อลำบาก”
“ได้ครับ...ได้”

ส่วนไอ้จุนมยอนนั้นยืนกดโทรศัพท์รอ ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น

ชานยอลเลื่อนรถไปด้านหน้า ขับไปจอดขวางรถเต่าคันนั้นเอาไว้ ก่อนจะลงมาเปิดฝากระโปรงรถตัวเองเพื่อเริ่มทำการจัมพ์สตาร์ทให้เจ้าของน้องเต่าคันนี้ เขากลับไปนั่งอยู่ในรถ เพื่อรอเวลาเหมาะสมที่จะเร่งเครื่องยนต์ เพื่อให้ประจุไฟฟ้าไหลเวียน

“รบกวนสตาร์ทรถ แล้วเร่งเครื่องหน่อยนะครับ”
“ครับๆ” เจ้าของรถรีบเปิดประตูรถ ก่อนจะสตาร์ทรถตามที่เขาบอกให้ทำ

น้องเต่าน้อยสีเหลืองที่เครื่องยนต์ติดขึ้นมานั้น ทำให้เจ้าของของมันมีรอยยิ้มขึ้นมาทันที คนตัวเล็กกว่าเขารีบลงจากรถมา ก่อนจะบอกขอบคุณเขาไม่หยุด ขอบคุณจนเขาเองยังรู้สึกเขินขึ้นมา

“ไม่เป็นไรครับ” ชานยอลรีบพูด “ถ้าตรงไปทางเข้าเมืองอีกห้าร้อยเมตร มันจะมีศูนย์ดูแลรถอยู่ ลองแวะดูนะครับ”
“ได้ครับ” เจ้าของน้องเต่ายิ้มแย้ม “ผมต้องบอกเค้าว่า...”
“บอกให้เค้าเช็คแบตเตอรี่ให้ก็ได้ครับ ถ้าเค้าบอกว่าหมดก็เปลี่ยนเลย”
“อ่า...งั้นเดี๋ยวผมคงต้องเข้าไปกดเงินก่อน ขอบคุณมากจริงๆนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ช่วยๆกัน”

จุนมยอนที่ได้ยินชานยอลพูดว่าช่วยๆกันนั้น หันมามองด้วยสายตาไม่น่าเชื่อ เพราะคนอย่างชานยอลนั้น ไม่เคยช่วยเหลือใครที่ไม่รู้จักให้เห็น บางทีก็อาจจะช่วยบ้าง แต่จุนมยอนไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ หรือไม่ก็ไม่เคยเห็นเลย

“ถ้าดับเครื่องแล้วมันอาจจะสตาร์ทไม่ติดนะ” ชานยอลบอกคนตัวเล็ก “เอาเงินของผมไปก่อนไหม ?”
“เอ้อ...ไม่ดีมั้งครับ คือว่าผมเกรงใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ คุณโอนเงินกลับมาก็ได้”
“...แต่ถ้าทำแบบนั้น ผมอาจจะโกงคุณก็ได้นะครับ !” อีกฝ่ายดูเกรงใจจริงๆ “มันไม่ปลอดภัย แล้วเราก็ไม่รู้จักกันด้วย ถ้าทำแบบนั้น คุณจะรู้สึกไม่ดี...”
“แต่เงินคุณจะไม่พอนะ แล้วแบบนั้นจะทำยังไง ?”
“นั่นสินะครับ...” น้ำเสียงฟังดูกังวลใจ “ถ้า...ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้ตอนเช้า เราไปเจอกันตรงปั๊มน้ำมัน ตรงทางลงทางด่วนก็ได้ครับ ที่คุณผ่านทุกวัน...”
“ที่ผมผ่านทุกวันหรอครับ ?” ชานยอลทวนคำของอีกฝ่าย สายตามองเห็นแก้มที่ระเรื่อเป็นสีชมพูขึ้นมา
“กะ...ก็คือ ผมเห็นรถคุณผ่านทางนั้นทุกวัน คือผมจำทะเบียนรถคุณได้ คุณผ่านใช่ไหมครับ หรือว่าผมจำผิด ?”
“ผ่านครับ” ชานยอลยิ้มกว้าง “ผ่านพร้อมน้องเต่าสีเหลืองนั่นแหละครับ”

แก้มกลมๆของอีกฝ่ายแดงขึ้นกว่าเดิม รอยยิ้มๆน้อยนั้น ทำเอาชานยอลรู้สึกเขินขึ้นมาเหมือนกัน

“คะ...ครับ” ชานยอลรู้ว่าอีกคนคงเขินขึ้นมาเหมือนกัน “ผมจะ...จะให้เบอร์โทรศัพท์ไว้นะครับ ถ้าพรุ่งนี้ผมไม่เอาเงินไปคืน คุณเอาเบอร์ผมไปโพสต์ในเน็ตก็ได้นะครับ ทดลองโทรเลยก็ได้ เบอร์ผมแน่นอนครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” ชานยอลหัวเราะ “ผมเชื่อใจน้องเต่านะ คงไม่หลอกผมหรอกใช่ไหม ?”
“น้องบีไม่หลอกหรอกครับ !” มือของเจ้าของรถ ตบปุปุลงไปที่รถเต่าสีเหลือง
“แล้วเจ้าของน้องบีล่ะครับ ?”
“ไม่หลอกเหมือนกับครับ !” อีกฝ่ายยิ้มกว้างให้เขา “เอ่อ...ผมชื่อแบคฮยอนครับ”
“ชานยอลครับ”
“ครับ...”

เราต่างคนต่างเขินกันขึ้นมา แล้วก็รู้ว่าต่างคนต่างเขินเหมือนกัน ปกติชานยอลอาจจะเป็นคนที่หลบตาก่อน แต่เพราะแบคฮยอนหลบไปก่อน ชานยอลเลยมองหน้าอีกฝ่ายได้ โดยไม่ต้องเบนสายตาหนีไปที่ไหน

“เอ่อ... / คือ...”
“คุณรีบไปเถอะครับ” ชานยอลพูด ก่อนจะส่งเงินที่คิดเอาไว้ว่าน่าจะพอกับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ “เดี๋ยวรถมันจะดับก่อน”
“ได้ครับ ขอบคุรมากนะครับคุณชานยอล !” แบคฮยอนรับเงินไป พร้อมกับบอกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองกลับมาด้วย เพื่อให้ชานยอลได้บันทึกเอาไว้ “ผมจะใช้คืนให้แน่นอนครับ”
“ครับ”
“ผมไปก่อนนะครับ จะพาน้องบีไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ ตามที่คุณชานยอลแนะนำครับ”
“ครับผม”

ชานยอลถอยรถหลบอีกฝ่าย หลังจากที่เลื่อนรถมาจอดเพื่อจัมพ์สตาร์ทให้น้องเต่าสีเหลือง ฝ่ายนั้นเองก็เปิดกระจก พยักหน้าลงเชิงบอกลาเขา รวมถึงเป็นการแสดงออกถึงการขอบคุณด้วย เขาเองก็พยักหน้ากลับไป ส่งรอยยิ้มกลับไปให้ด้วยความยินดี

น้องเต่าน้อยหรือน้องบี มีเจ้าของที่น่ารักจริงๆด้วย

พรุ่งนี้เราจะได้เจอกันอีก เพราะชานยอลรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่มีทางเบี้ยวเขาอยู่แล้ว เหมือนที่เขาหน้ามืดตามัวให้ยืมเงินไป ทั้งที่มันเป็นเงินที่แม่เขาให้เอามาจ่ายค่ากระเป๋าที่แม่เอามาส่งซ่อมเอาไว้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว

บยอนแบคฮยอน

พรุ่งนี้ชวนไปกินข้าวเช้าด้วยกันดีกว่า













**
ด้วยความที่เราอยู่ย่านรถติด ที่เรียนก็อยู่ย่านรถติด
เรากับเพื่อนก็จะออกจากบ้านกันประมาณตีห้าครึ่งทุกวัน
(เพื่อไปเรียนให้ทัน เพื่อที่จอดรถ และเพื่อไปต่อสู้กับเหล่าประชามหาชนบนท้องถนน)
ทุกวันก่อนจะถึงที่หมายเนี่ย ประมาณไม่ใกล้ไม่ไกล จะเจอรถเต่าสีเหลืองทุกวันเลย
เจอกันมาสองปีแล้ว เจอกันทุกวัน เจอที่ช่วงถนนเดิมๆ
เอาจริงๆก็ไม่รู้จักกันนะ แต่เห็นทุกวันแล้วมันก็ยิ้มได้ เป็นเรื่องคลายเครียดดี
เรากับเพื่อนก็จะแบบ น้องเต่าอีกแล้ว น้องเต่าๆ
จนเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว ไปเดินห้างต่อแล้วจะกลับบ้าน
รถที่จอดข้างๆดันเป็นน้องเต่าสีเหลืองเนี่ยแหละ ทะเบียนก็ใช่เลย (เจอจนจำได้)
ยืนขำกับเพื่อนอยู่ตั้งนาน แล้วก็เลยแต่งเรื่องนี้ขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่เป็นแบคฮยอนไปก่อนนะ

ขอบคุณทุกคนมากเลย ช่วงนี้เรายุ่งมากๆ
จะทำอะไรก็ไม่ได้ทำสักอย่าง ติดอยู่ที่เราคนเดียวเนี่ยแหละ TT

ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้เสมอมาค่ะ


Reply · Report Post