ABYSS #Novelber Day 30 - Death (ตอนจบ) @Novelber_TH


ABYSS

Day 1 - สีดำ : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp8lj9
Day 2 - แรคคูน : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp8oi9
Day 3 - Cotton Candy : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp8rqf
Day 4 - ตู้หยอดเหรียญ : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp8ush
Day 5 - ดินสอสี : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp91ls
Day 6 - Fool : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp94tv
Day 7 - พวงกุญแจ : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp97uv
Day 8 - เสื้อกันหนาว : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp9ekh
Day 9 - จดหมาย : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp9fbq
Day 10 - Crimson : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp9j1l
Day 11 - ไดอารี่ : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp9m51
Day 12 - คำโกหก : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp9pig
Day 13 - Lullaby : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp9sma
Day 14 - Christmas : http://www.twitlonger.com/show/n_1sp9vgu
Day 15 - มีดทำครัว : http://www.twitlonger.com/show/n_1spa6c9
Day 16 - Spirit : http://www.twitlonger.com/show/n_1spah5t
Day 17 - ท้องฟ้า : http://www.twitlonger.com/show/n_1spai8v
Day 18 - ผ้าปูที่นอน : http://www.twitlonger.com/show/n_1spb2e7
Day 19 - Experiment : http://www.twitlonger.com/show/n_1spbcv4
Day 20 - สเต็กเนื้อ : http://www.twitlonger.com/show/n_1spbles
Day 21 - กำแพงสังกะสี - http://www.twitlonger.com/show/n_1spcqaj
Day 22 - ซึมเศร้า : http://www.twitlonger.com/show/n_1spdf51
Day 23 - Attack : http://www.twitlonger.com/show/n_1spe6el
Day 24 - ไฟถนน : http://www.twitlonger.com/show/n_1spes37
Day 25 - อิฐบล็อก : http://www.twitlonger.com/show/n_1spfbte
Day 26 - Mask : http://www.twitlonger.com/show/n_1spg0ad
Day 27 - ตีลังกา : http://www.twitlonger.com/show/n_1spg665
Day 28 - หลงลืม : http://www.twitlonger.com/show/n_1spgc1v
Day 29 - สมุดโน้ต : http://www.twitlonger.com/show/n_1spgcme



side story - Yukata : http://www.twitlonger.com/show/n_1spa2td

-------------------------------------------------------




Day 30 - Death


ผมกลับไปทำงานตามปกติ หลังจากหยุดพักไปสัปดาห์เศษ และต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อย
หัวหน้าอุ่นเครื่องให้ผมด้วยคดีที่ไม่ซับซ้อนนัก และนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกดีที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง
ส่วนคดีฆาตกรรมสองศพนั้น ผมยินดีที่จะถอนตัวออกมาเอง เพื่อความสะดวกและสบายใจของทีม
การแจ้งเตือนชุมชน LGBTQ และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในลอนดอนและไบรตันไม่เสียเปล่า
เรากู้หน้าคืนมาจากทีมสืบสวนอีกทีมหนึ่งที่ทำคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีเหยื่อเป็นชายรักชายสำเร็จ
แต่ก็ไม่วายมีข้อครหาจากบางคนอยู่ดีว่า เพราะผมเป็นหนึ่งในบรรดาคนรักเพศเดียวกันหรอก
ทางตำรวจถึงได้ใส่ใจในความเป็นพวกเดียวกัน และต้องการรักษาหน้าของเดอะเม็ทมากกว่า
แต่ใครจะว่าอะไรก็ช่าง เราจับฆาตกรตัวจริงได้ และสามารถหยุดเขาได้ก่อนที่จะมีเหยื่อรายอื่นอีก


แม้ว่าผมจะกลายเป็นผู้เสียหายและเป็นหนึ่งในพยานในคดี แต่ก็ไม่ได้ถูกกันไม่ให้รู้อะไรเลยเสียทีเดียว
เพราะพีท โดเฮอร์ตี้ เพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทของผม ซึ่งยังต้องติดตามและทำคดีนี้ให้เรียบร้อย
เขาบอกผมว่า สิ่งที่ผมคาดเอาไว้แต่แรกนั้น ไม่ผิดไปจากที่อยู่ในบันทึกของแอปเปิลบี้สักเท่าไหร่
นักจิตวิทยาอาชญากรรมที่เอาสมุดโน้ตของเขาไปอ่าน เขียนรายงานมาในทำนองเดียวกับที่ผมเคยพูด


ปมในจิตใจของวินเซนต์ แอปเปิลบี้บ่มเพาะมาตั้งแต่สมัยที่เขากำลังจะโตเป็นวัยรุ่น


จากบันทึกของวินเซนต์ แอปเปิลบี้ความตายของนีน่า รามิเรซ ซานโตส สาวใช้จากแถบคาริบเบียน
ได้ปลุกสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในซอกหลืบดำมืดที่ยากจะหยั่งถึงในจิตใจของเด็กชายวินเซนต์ให้ตื่นขึ้น
วินเซนต์ซ่อนอยู่ในตู้ ระหว่างที่พ่อของเขา ซึ่งเป็นวิสัญญีแพทย์ ร่วมประเวณีกับเธอในห้องใต้ดิน
นายแพทย์แอปเปิลบี้ฆ่าเธอ แต่ก็ยังร่วมรักกับร่างไร้วิญญาณของเธอต่อไป โดยไม่รู้ว่า ลูกของตนเห็น
จากนั้น เขาก็ใช้ขวานสับเธอออกเป็นท่อน และเป็นตอนนั้นเอง ที่เด็กชายที่กำลังโตเป็นหนุ่มรู้จักความใคร่
แต่ความใคร่ของเขาเป็นความต้องการที่บิดเบี้ยว ในตอนนั้น เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า เขารู้สึกเช่นนั้น
เพราะเห็นการร่วมรัก เห็นร่างเปลือยของหญิงสาว หรือว่าเพราะร่างเปลือยเปล่าของพ่อตัวเอง


สิ่งที่ส่งเสริมให้จิตใจของวินเซนต์แยกแยะความผิดถูกไม่ได้ ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพ่อแท้ ๆ ของเขาเอง
นพ. อัลเบิร์ต แอปเปิลบี้รู้เรื่องที่ลูกชายของตนมองเห็นทุกอย่าง แต่เขาเลือกที่จะกลบเกลื่อน
และดึงเอาลูกชายของตนเองเข้ามามีส่วนร่วมในการทำลายศพของนีน่า รามิเรซอีกคนหนึ่ง
เขาทำให้วินเซนต์รับรู้ว่า ไม่มีอะไร ไม่มีปัญหา จะไม่มีใครจับได้ ถ้าหากพวกเขาร่วมมือกัน
และยิ่งไปกว่านั้น เขาชมลูกชายว่า เก่ง ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้เด็กชายภาคภูมิใจในตัวเอง
เพื่อแลกกับสิ่งเดียวเท่านั้น คือ เก็บความลับเรื่องที่เขาฆ่าสาวใช้ชาวต่างชาติแล้วนำศพที่ถูกทำลายไปทิ้ง


นีน่าเป็นเหยื่อรายแรกที่ถูกหลงลืม เพราะไม่มีใครคิดออกตามหา ไม่มีใครรู้หรือสนใจว่าเธอไปอยู่ที่ไหน
เพราะไม่มีใครรู้เห็นเกี่ยวกับเธอ และทางตำรวจเองก็เชื่อถือปากคำของแพทย์ผู้มีหน้าตาในสังคม
รวมถึงเชื่อว่า เด็กหนุ่มอย่างวินเซนต์ไม่มีทางโกหกไปได้ นีน่าจึงสูญหายไปตลอดกาล
แต่ในการรับรู้ของวินเซนต์ แอปเปิลบี้ เธอมีชีวิตอยู่ในความฝันของตัวเอง ความฝันที่พ่อของเขามอบให้


เมื่อเติบโตขึ้น มีอะไรให้ทำมากกขึ้น เขาอยู่ห่างบ้านและมีสังคมของตัวเองมากขึ้น
วินเซนต์จึงหลงลืมเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในสมัยเด็กไปชั่วขณะ แต่พ่อยังคงเป็นที่หนึ่งในใจของเขาเสมอ
แม้ว่าความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้จะไม่ปกติเอาเสียเลย โดยเฉพาะเรื่องทางเพศที่พ่อเขาสอนให้ปฏิบัติ
เช่นเคย วินเซนต์ตีความการล่วงละเมิดเป็นการให้ความรู้และให้ความรัก และเข้าใจเอาเองว่า
การตื่นตัวทางเพศของตัวเองในครั้งนั้น เกิดขึ้นเพราะเขาเห็นร่างเปลือยเปล่าของพ่อกับนีน่านั่นเอง


เขาไม่รู้ว่า ความตื่นเต้น เลือดที่สูบฉีดไปทั่วร่าง การตื่นตัวของเขาเกิดขึ้นเพราะเห็นเธอถูกสับออกเป็นชิ้น
จนกระทั่งเขาตกลงใจที่จะก้าวตามรอยเท้าของคนที่เขาเคารพรักและมองว่าเก่งกาจเหนือใครมาแต่เล็ก
ด้วยการสอบเข้าโรงเรียนแพทย์ และในวิชากายวิภาคศาสตร์ ความปรารถนาดำมืดของเขาก็ถูกกระตุ้น
นั่นคือเหตุผลที่เขาจำเป็นต้องลาออกจากการเป็นนักเรียนแพทย์ ทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย


ผมคิดว่า พ่อของวินเซนต์ แอปเปิลบี้มีส่วนสร้างปมปัญหาของเขาให้รุนแรงยิ่งขึ้น
ด้วยการไม่ยอมรับความจริงว่า สิ่งที่ลูกชายของเขาเป็นอยู่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขก่อนที่จะถลำลึก
แต่เขาเห็นแก่ตัวเกินไป เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะยอมรับความจริง และที่สำคัญเขากลัวว่าตัวเองจะมีปัญหา


หลังจากกรณีของนีน่า รามิเรซ พ่อลูกแอปเปิลบี้ไม่ได้ก่อเหตุฆาตกรรมใด ๆ อีกเลย
ทุกอย่างดูสงบเรียบร้อย และวินเซนต์ก็ไม่เคยแสดงท่าทีว่าเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้น
จนกระทั่งวันที่พ่อของเขาตายไป วินเซนต์ไม่เหลือต้นแบบอะไรไว้ให้เขาบูชาอีก
นอกเหนือไปจากการก้าวขึ้นทำหน้าที่ทดแทน และทำสิ่งที่พ่อของเขาเคยทำเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง


นีล แมคเคนซี่เป็นเหยื่อรายแรกที่โชคร้ายที่สุด เพราะดวงตาและสีผิวของเขาคล้ายกับนีน่า
ส่วนคอนสแตนติน่าต้องประสบเคราะห์ร้าย เพียงเพราะเธอมาอยู่ในจังหวะเวลาที่เขากำลังต้องการ
แต่ในกรณีของผมนั้น ดูเหมือนว่า เขาจะเริ่มสนใจผมตั้งแต่วันที่เขาแทรกตัวในฝูงชนที่ได้ยินข่าว
เขาเริ่มสนใจผมมากขึ้น ในช่วงจังหวะเวลาที่ผมเริ่มสับสนกับความสัมพันธ์ของตัวเองกับลีโอ
เขาสังเกตเห็นความรู้สึกนั้นของผม เมื่อเขาเฝ้ามองผลงานชิ้นที่สองของตนเอง คือ คอนสแตนติน่า
ความสับสน ความเหงา ความต้องการ และความปรารถนาที่ไม่มีวันเป็นจริง คือ อาหารของเขา




ผมทนอ่านสำเนาบันทึกบางส่วนของวินเซนต์ไปจนจบ และส่งคืนให้กับพีท โดเฮอร์ตี้
พีทบอกผมว่า วินเซนต์ถามหาผม และถามว่าผมเป็นอย่างไรบ้าง อาการดีขึ้นไหม
เขาอยากเห็นหน้าผมอีกสักครั้ง อยากพูดคุยกับผม แต่คำขอนั้นของเขาได้รับการปฏิเสธ
พีททำถูกแล้วที่ตัดสินใจแทนผมไปอย่างนั้น แม้ว่าผมจะอยากรู้ว่า วินเซนต์จะทำอย่างไรเมื่อพบผม
แต่ไม่มีอะไรที่ผมจะทำได้อีกแล้ว ผมเข้าใจและให้อภัยเขา ทว่าผมไม่สามารถสงสารหรือเห็นใจเขาได้


สถานที่ที่ผมจะพบหน้าเขามีเพียงที่เดียวเท่านั้น คือ ศาล ที่ที่เขาเป็นจำเลย และผมเป็นพยานโจทก์


สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับลีโอ... เรายังคงเหมือนเดิม คือ ไม่มีคำเรียกสำหรับสถานะที่เป็นอยู่
เขาไม่เคยร้องขอให้ผมหยุดอยู่ที่เขาเพียงคนเดียว ในขณะเดียวกัน ผมก็ไม่เคยบอกว่า ผมไม่มีคนอื่น


ผมมีกุญแจบ้านของเขา และเขามีกุญแจบ้านของผม... เพียงเท่านี้ก็ชัดเจนมากพอแล้ว









= ส่งท้าย =


“ไม่ได้เห็นที่นี่ซะนานเลยนะ คุณตำรวจ”

“ดร. คิงสลีย์” ผมยิ้มให้เจ้าของคำทักทายนั้น ลีโออยู่ในชุดผ่าตัดสีเขียว “ผมมารับรายงาน”
“ดีใจที่ได้เห็นนายมาอยู่ตรงนี้อีกรอบ” เขาเดินเข้ามาหาผม “งานยุ่งจนต้องมาหยอดกาแฟที่นี่เลยเหรอ”


“ผมไม่คิดว่าคนที่คุณผ่าไปจะดีใจแบบคุณด้วยหรอกนะ” ผมหัวเราะ ผมกับเขาไม่ได้พบกันมาหลายวันแล้ว
เมื่อผมเริ่มทำงานเต็มตัว และเขาก็มีศพมาให้ชันสูตรมากมาย เพราะสำนักงานโคโรเนอร์มีความเห็นให้ส่ง
เราต่างคนต่างยุ่งจนแทบไม่มีเวลาได้พบกัน และ การโทรศัพท์พูดคุยกันก็เป็นเรื่องงานมากกว่าอย่างอื่น


ผมขอบคุณที่เขาช่วยเอาฝาพลาสติกจากตู้ขายกาแฟหยอดเหรียญมาปิดปากแก้วให้ และสบตากับเขา
“ยุ่งพอสมควร แต่คงไม่เท่าคุณ เลยหาเรื่องมาเจอคุณบ้างก็แค่นั้นเอง เผื่อว่าคุณไม่ว่างแวะไปหาผมที่บ้าน”


“แล้วคืนนี้นายว่างหรือยังล่ะ”


ตั้งแต่รู้ว่า เข็มที่วินเซนต์ใช้แทงผมในคืนก่อนที่เราจะจับเขาได้ปลอดเชื้อ ทุกอย่างสะอาดปลอดภัย
ความวิตกกังวลทั้งหลายก็สลายหายไปจนหมด และดูเหมือนว่า จะทำให้ลีโอได้ใจขึ้นมาอีกนิดหน่อย


“คุณว่าง ผมก็ว่าง”


คราวนี้ ผมรู้แล้วว่าจะทำอย่างไม่ให้กาแฟที่ถืออยู่ในมือหก ในเวลาที่เขารวบตัวผมเข้าไปกอด





----------------------- END ----------------------------



ในที่สุดก็จบจนได้ เป็นเรื่องที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาเลยค่ะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ และขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่แวะมาคุยกัน รวมถึงให้ข้อมูลที่ดีมากๆ
ขอบคุณเจ้าของกิจกรรม Novelber ด้วยนะคะ ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้น ถึงได้ productive ขนาดนี้

ที่จริง เรื่องนี้ก็ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ แต่จะหาเวลารีไรท์ เรียบเรียงให้ราบรื่นและมีรายละเอียดกว่านี้

ขอบคุณมากๆ อีกครั้งหนึ่งค่ะ ^^

Reply · Report Post