First Kiss (2/2) เอาตอนจบของเรือผีเรื่องนี้มาลงต่อแล้วค่ะ


ตอนแรก : http://www.twitlonger.com/show/n_1sosp97


--------------------------------------------------



ที่จริง ลานซล็อตมีคำตอบสำหรับคำถามของเพอร์ซิวาลอยู่แล้ว แต่คำถามนั้นก็ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก
แน่นอนว่า เขาไม่ปฏิเสธว่าได้ทำในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ย แต่สิ่งที่เขาไม่แน่ใจ คือ เหตุผลที่อีกฝ่ายถามมากกว่า


คืนนั้น ภารกิจคุ้มครองครอบครัวของศาสตราจารย์มอร์ตันสิ้นสุด เป้าหมายปลอยภัย แต่คู่หูของเขาเจ็บหนัก
สิ่งที่เพอร์ซิวาลเอ่ยบอกว่า หากตนเองเป็นอะไรไปก็ให้ลืมเขาไปเสีย เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากได้ยิน
ไม่ใช่เพื่อปิดปากของอีกฝ่ายไม่ให้พูด แต่จูบนั้นของเขา คือ ความรู้สึกที่ท่วมท้นเกินกว่าจะพูดออกไปได้


ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลานซล็อตพยายามรักษาระยะห่างของตัวเองกับเพอร์ซิวาลเอาไว้
คู่หูของเขาเคยถอยฉากออกไปในครั้งแรกที่เขาตัดสินใจบอกว่า ความรู้สึกที่เขามีให้มากกว่าแค่เป็นเพื่อน
เมื่อได้รับโอกาสครั้งที่สอง เขาจึงบอกตัวเองว่า จะไม่ทำพลาดซ้ำ และไม่ผลีผลามตามความรู้สึกตัวเองอีก
แม้เพอร์ซิวาลจะยอมเปิดใจให้ แต่ลานซล็อตก็ยังต้องเตือนตัวเองเสมอ ไม่ให้ทำอะไรล้ำเส้นจนเกินไปนัก


ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดกับการสูญเสียเพื่อนสนิทไปในการปฏิบัติการ
และความรู้สึกที่เขามีต่อเพอร์ซิวาลต่างจากลี อันวิน เพื่อนร่วมฝึกที่ควรเป็น ‘ลานซล็อต’ ไปมากกว่าเขา
ถึงกระนั้น บาดแผลที่คู่หูของเขาได้รับ เพราะใช้ตัวเองปกป้องคนอื่น ก็เป็นเหมือนคมมีดกรีดลงบนแผลเก่า
และตอกย้ำความไม่เอาไหนของเขาที่ไม่อาจปกป้องเพื่อนคนสำคัญที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในภารกิจได้


“ลานซล็อต...”


เสียงที่เรียกชื่อเขาแผ่วเบา และมือที่บีบมือของเขาแน่นขึ้น ทำให้ชายหนุ่มหันกลับมามองคนเรียกอีกครั้ง
สายตาที่เพอร์ซิวาลมองมายังคงจับจ้องที่ใบหน้าของเขาเพื่อรอคำตอบ


“ใช่...” เขายอมรับตามตรง ไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหก


ไม่เพียงแต่ไม่ขัดขืน ลานซล็อตจำได้ว่า เพอร์ซิวาลตอบสนองสิ่งที่เขาทำด้วยความเต็มใจ
และยกสองแขนของตนเองขึ้นโอบกอดเขาเอาไว้ ก่อนคลายออก แล้วหลับตาลงด้วยความอ่อนล้า
น่าแปลก ที่ทุกสิ่งที่อีกฝ่ายทำไม่ได้ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น ทว่าสงบลงโดยที่เขาก็หาเหตุผลไม่ได้


“ขอโทษนะ เพอร์ซิวาล... ถ้านายไม่ชอบ ฉันจะไม่...”


ไม่รอให้จบประโยค เพอร์ซิวาลก็ส่ายหน้าปรามไม่ให้ลานซล็อตเอ่ยต่อ


“ฉันไม่ได้บอกว่า นายทำผิด”


สิ่งที่คู่หูเอ่ยทำให้ชายหนุ่มชะงัก และมองหน้าของคนพูดซ้ำอีกครั้ง
ในขณะที่อีกฝ่ายสบตาตอบกลับมา ด้วยแววตาที่บ่งชัดว่า ตนเองหมายความตามที่กล่าวทุกคำ


“ถ้ามันจะทำให้นายวางใจได้ว่า ฉันยังมีชีวิตอยู่ และนายไม่ได้ทำพลาด...”


น้ำเสียงราบเรียบของเพอร์ซิวาลที่เอ่ยกับเขาเยือกเย็น แต่ห่างไกลจากคำว่าเย็นชามากเหลือเกิน


“ฉันแค่อยากจะแน่ใจว่า นายจะไม่โทษตัวเองเรื่องฉัน เหมือนที่เคยโทษตัวเองเรื่องลี อันวิน”


เหมือนมีก้อนความรู้สึกที่ยากจะอธิบายได้แล่นขึ้นมาจุกแน่นอยู่กลางอก
ในลำคอของลานซล็อตแห้งผาก ปากของเขาอยากจะขยับเอ่ยบางสิ่งแต่ทำไม่ได้
เขาไม่เคยคาดคิดว่า เพอร์ซิวาลจะเอ่ยชื่อของคนที่เป็นเหมือนแผลเก่าของเขาเรื่อยมาออกมา
ไม่กี่ประโยคเหล่านั้น ก็เป็นเหมือนกระสุนที่ยิงเข้าตรงกลางใจของเขาอย่างแม่นยำทุกนัด


เขาคิดจะถามว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงรู้เรื่องนี้ แต่ท้ายที่สุดก็เปลี่ยนใจ


เพอร์ซิวาลเป็นสมาชิกของคิงส์แมนก่อนเขา และเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นกับลีก็เป็นที่สายลับทุกคนต่างรู้
แต่สิ่งที่ทำให้เพอร์ซิวาลแตกต่างไปจากคนอื่น คือ เขาไม่เคยมองลานซล็อตอย่างสงสัยในความสามารถ
ในความเย็นชาและรักษาระยะห่าง อีกฝ่ายกลับคอยมอง และทำความรู้จักตัวตนของเขาอย่างเงียบ ๆ
ถึงบางครั้ง จะเอ่ยปากบ่นว่า หรือแสดงท่าทีรำคาญ แต่สิ่งที่แสดงออกต่อเขาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
คือ เพอร์ซิวาลไม่เคยพยายามจะเปลี่ยนตัวตนของเขา ทว่าคอยเติมเต็มในส่วนที่เขาขาดแทนที่


ถึงแม้จะบาดเจ็บ แต่เพอร์ซิวาลยังคงเฝ้ามอง และคอยสังเกตทุกความรู้สึกและความเคลื่อนไหวของเขา
ไม่เพียงแต่ไม่ตำหนิ แต่ยังปล่อยให้เขาทำทุกอย่างตามความรู้สึกของตนเองโดยไม่ขัดขวาง
ลานซล็อตเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่า เพราะเหตุใดคู่หูจึงโอบกอดเขาตอบ และเหตุใดใจเขาจึงสงบลงได้


“นายช่วยชีวิตฉัน...” คนเจ็บกระซิบบอก แต่คำไม่กี่คำในประโยคนั้นกลับมีความหมายกับเขาอย่างที่สุด


คำสั่งของเพอร์ซิวาลให้ลานซล็อตช่วยเย็บบาดแผลลึกที่ไม่มีทางอื่นจะรักษาและห้ามเลือดอีกแล้ว
ไม่เพียงแต่เป็นการรักษาบาดแผลของตนเองเท่านั้น ทว่าแต่ละเข็มที่ส่งด้ายยึดประสานปากแผลที่เปิดอ้า
ให้กลับมาชิดติดกัน และทำให้เลือดที่เคยไหลทะลักจนนึกว่าจะหยุดไม่ได้ ช่วยเย็บแผลในใจของเขาด้วย


เขาปกป้องคู่หูของตัวเองให้ปลอดภัยไม่ได้ก็จริง แต่อย่างน้อย เขาก็รักษาชีวิตอีกฝ่ายไว้ได้ด้วยมือตัวเอง


“ฉันจะทำยังไงให้นายเชื่อว่า ฉันไม่เป็นไรแล้ว...” เพอร์ซิวาลเอ่ยถาม


เขาสบตากับอีกฝ่าย แล้วยิ้ม “ทำอย่างที่นายทำเมื่อคืนได้ไหม”


ทันทีที่จบคำถาม รอยยิ้มของลานซล็อตก็จางหาย เมื่ออีกฝ่ายถอนมือออกจากมือของเขาที่กุมมือตนเอาไว้
แต่ไม่นานเกินไปนัก รอยยิ้มของเขาก็หวนคนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ แทบนับครั้งได้ของคู่หู
ก่อนที่เพอร์ซิวาลจะเอื้อมมือขึ้นประคองใบหน้าของเขา นำให้โน้มลงมาใกล้จนสัมผัสได้ถึงไออุ่น


และจูบแรกที่เขาได้รับจากเพอร์ซิวาล ณ เวลานั้น คือ สิ่งแทนคำยืนยันว่า เขาไม่ได้ฝันไป


นับจากนี้ บาดแผลกับฝันร้ายที่เคยหลอกหลอนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
จะได้รับการรักษาจนหาย และจะไม่ต้องทนทุกข์กับเรื่องราวในอดีตที่ฝังใจอีกต่อไปแล้ว




===================== (END) =====================




ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ ^^

Reply · Report Post