First Kiss (1/2) เรือผี ลงหลัง Kiss day ช้าไปหลายวันอยู่ ><


เพอร์ซิวาลลืมตาตื่นขึ้น และพบว่าตนเองนอนอยู่ในเตียงของโรงพยาบาล
ทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่มองเห็นบอกให้รู้ว่า เขาไม่ได้อยู่ในอังกฤษ แต่ก็ไม่ใช่อินโดนีเซีย



ครั้งสุดท้ายที่ยังมีสติสัมปชัญญะหลงเหลือ เขาจำได้ว่า ตนเองอยู่ในป่าฝนของกาลิมันตัน
มีแขนของเพื่อนร่วมตายในภารกิจโอบประคองให้เขายืนอยู่ได้ และโอบกอดเขาเอาไว้ตลอดเวลา
ชายหนุ่มรู้ว่า บาดแผลของตนเองสาหัสพอดู แต่เขาเชื่อว่า บาดแผลดังกล่าวเอาชีวิตเขาไปไม่ได้
แต่ต่อให้เขาต้องตายเพราะเสียเลือดมากจริง ๆ ก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องกลัว เมื่อมีลานซล็อตอยู่เคียงข้าง



ลานซล็อตที่ชอบทำงานนอกแผน ชอบแสดงออกมากเกินไปจนไม่น่าเชื่อถือในสายตาของใคร ๆ คนนั้น
เป็นเพื่อนที่รู้ใจเขามากที่สุด พึ่งพาได้มากที่สุด และไม่เคยทอดทิ้งกันแม้เพียงครั้งในช่วงเวลายากลำบาก


แผลที่ท้องยังคงปวดและตึงจนแทบไม่อยากขยับตัว แต่มันก็เป็นสิ่งย้ำเตือนถึงเหตุการณ์เพิ่งผ่านมา
ถ้าคู่หูของเขาไม่รวบรวมความกล้าลงมือเย็บแผลให้ เขาคงเสียเลือดมากกว่านี้ และคงตายไปตั้งแต่วานนี้


“ถ้านายเกิดเป็นอะไรขึ้นมา แล้วฉันจะทำยังไง” เขายังจำเสียงของคู่หูที่เอ่ยถามประโยคนั้นได้
และความเจ็บปวดที่เขาได้รับในแต่ละเข็มที่แทงผ่านเนื้อสะท้อนอยู่ในดวงตาของลานซล็อตเท่าเทียมกัน
เมื่อเขาฝืนยิ้มและบอกว่า ถ้าเขาตายขอให้อีกฝ่ายคิดถึงบ้างก็พอ คู่หูของเขาก็เงียบไป
พร้อมเอ่ยขอร้องไม่ให้เขาพูดอีก และปิดปากของเขาไม่ให้เอ่ยถ้อยคำที่ชวนให้ใจเสียออกมาได้อีก


เพอร์ซิวาลยกมือข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือขึ้นแตะริมฝีปากของตนเอง แม้ยามนั้นจะอยู่ในช่วงเวลาจวนสิ้นสติ
ความทรงจำเกี่ยวกับสัมผัสจากริมฝีปากของลานซล็อตที่ทาบทับบนริมฝีปากของเขากลับไม่หายไปไหน


มันไม่ใช่จูบแรกในชีวิต แต่เป็นจูบแรกจากผู้ชายคนแรกที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะรักตอบได้
และผู้ชายคนที่ว่า กำลังนั่งมองเขาอยู่จากเตียงกึ่งเตียงสำหรับเฝ้าไข้ ใบหน้าอิดโรยเพราะพักผ่อนไม่พอ
ทว่ารอยยิ้มกว้างด้วยความยินดีและโล่งอกถูกจุดประกายขึ้นมาทันทีที่เห็นว่า เขากำลังมองมาที่ตนเอง


“นายอยู่ในโรงพยาบาลในสิงคโปร์” คู่หูของเขาที่พาตัวเองมายืนอยู่ข้างเตียง และกุมมือของเขาเอาไว้บอก
“ไม่ต้องห่วง โรงพยาบาลนี้เป็นเครือข่ายของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมอร์ลินจัดการทุกอย่างแล้ว
ตอนมาถึง นายไข้สูงจนแทบไม่มีสติ เลยต้องนอนพักให้ไข้ลดลงก่อน เราค่อยกลับอังกฤษกันพรุ่งนี้เช้า
นายหิวหรือเปล่า อยากได้อะไรมาอ่านบ้างไหม ฉันจะได้ให้คนมาเฝ้านาย แล้วออกไปซื้อของมาให้”


ระหว่างที่พูดไม่หยุด ลานซล็อตยังคงร่าเริง รอยยิ้มกว้างปรากฏอยู่บนใบหน้าตลอดเวลาที่เล่าความ
แต่ความกังวลและรู้สึกผิดที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีอย่างคนไม่คิดอะไรมากมายนักกลับฉายชัดขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อสังเกตเห็นว่า คู่หูไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ นอกจากมองเขานิ่งอยู่อย่างเดิมโดยไม่เอ่ยอะไรออกมา
ทั้งที่ตามปกติแล้ว สิ่งที่เพอร์ซิวาลให้ความสำคัญมากที่สุด คือ งาน และเป็นสิ่งแรกที่ถามถึงในทุกครั้ง
ทว่ามืออุ่นจัดเพราะไข้ต่ำ ๆ ที่เขากุมอยู่ในมือของตัวเองกลับจับมือของเขาตอบราวกับร้องขอให้อยู่ใกล้ ๆ
และสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยถามในเวลาต่อมา ก็ทำให้หัวใจของลานซล็อตเต้นผิดจังหวะไปชั่วครู่


“เมื่อคืนนี้... นายจูบฉันใช่หรือเปล่า...”





To be continued

Reply · Report Post