A Price to Pay (part 4 : จบ) แฟนฟิค the Jungle Book


Part 1: http://www.twitlonger.com/show/n_1sojlho
Part 2: http://www.twitlonger.com/show/n_1sok0g4
Part 3: http://www.twitlonger.com/show/n_1sokro9


บากีร่ารู้ตัวว่า มันทำพลาดไปหลายอย่าง และความผิดพลาดเหล่านั้นมีต้นเหตุมาจากความหวังดีของมันเอง
ความผิดพลาดประการแรก คือ การที่มันขอร้องให้บาลูพูดหรือทำอย่างไรก็ได้ให้เมาคลีกลับไปอยู่กับมนุษย์ทั้งที่มันเองก็รู้ว่า คำขอร้องนั้นจะทำให้บาลูที่รักเมาคลีเช่นเดียวกับมันต้องเสียใจ และเมื่อบาลูจำใจทำสิ่งที่มันร้องขอ ผลที่ได้รับกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่มันคาดหวังไว้ เพราะเมาคลีเตลิดไปไกลจากพวกมันยิ่งกว่าเดิม และไม่เหลือใครอีกแล้ว ที่จะเกลี้ยกล่อมเมาคลีให้กลับมาไว้ใจพวกมันเหมือนเดิมได้


แม้ว่าการที่พวกลิงบันดาโล้กลักพาตัวของเมาคลีไปจะทำให้พวกมันกลับมาพบกับอีกครั้ง และทำให้เมาคลีกลับมาวางใจในตัวของมันกับบาลูที่เสี่ยงชีวิตติดตามไปช่วย โดยเฉพาะบาลูที่ทั้งยอมให้มันเหยียบเพื่อข้ามลำธาร และยอมปีนหน้าผมขึ้นมายังซากปราสาทซึ่งเป็นที่อาศัยของฝูงลิงร้ายกาจเหล่านั้นทั้งที่กลัวความสูงสุดชีวิต แต่มันไม่เคยคาดคิดเลยว่า ราชาลูอี้ ลิงยักษ์ซึ่งเป็นผู้นำของเหล่าบันดาโล้กจะล่วงรู้ถึงการตายของอาคีล่า อดีตจ่าฝูงหมาป่าแห่งซีโอนี และเอ่ยบอกเรื่องดังกล่าวกับเมาคลี การที่มันเอาใจใส่แต่ความปลอดภัยของลูกมนุษย์ทำให้มันลืมไปว่า ลูอี้เองก็มี ‘หูตา’ อยู่ในป่ามิใช่น้อย เป็นความผิดประการหลังของมัน


บากีร่ายังจดจำสายตาที่แสดงถึงความผิดหวังและเสียใจของเมาคลีที่มองมายังมันและบาลูได้อย่างแม่นยำ คำถามที่เด็กน้อยเอ่ยถามมันอย่างเจ็บปวดเพราะถูกปิดบังจากความจริงที่ตนเองควรรู้ว่า ทำไมเจ้าไม่บอกข้า ทำให้มันเจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากัน


ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของมันเอง แต่มันเสียใจยิ่งกว่าที่มันทำตัวเหมือนไม่รู้จักเด็กน้อยที่มันเลี้ยงมากับมือเสมือนเป็นครอบครัวแท้ ๆ ของตนเอง มันรู้ว่าบาลูพูดถูกเรื่องที่มันไม่ควรผลักไสเมาคลีออกจากป่า มันพร้อมรับฟังคำตำหนิจากอีกฝ่ายหนึ่ง หลังจากพวกมันจำต้องปล่อยให้เมาคลีหนีไปอีกครั้งหนึ่ง และในคราวนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องตามหาที่ใด แต่เจ้าหมีเฒ่าของมันกลับไม่เอ่ยตำหนิมันเลยแม้เพียงคำ ทว่ากลับบอกมันอย่างเข้าใจว่า พวกมันจำเป็นต้องปล่อยเมาคลีไป และจัดการเรื่องที่ค้างคาอยู่ระหว่างเชียร์คานและฝูงหมาป่าเสียก่อนที่จะเลยเถิดไปยิ่งกว่าเก่า


อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่มันเชื่อมั่นอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คือ เมาคลีจะไม่มีวันทิ้งพวกพ้อง และในเวลานี้ เมาคลีได้พิสูจน์แล้วว่า ความเชื่อของมันไม่ผิด


ไม่เพียงหวนคืนสู่ป่าเพื่อเผชิญหน้ากับคู่อาฆาตอย่างเชียร์คาน เมาคลียังนำไฟ หรือ ดอกไม้สีแดงที่สัตว์ป่าทั้งหลายล้วนหวาดกลัวกลับมาจากหมู่บ้านของมนุษย์ด้วย


แม้ว่าคบเพลิงนั้นจะถูกทิ้งลงในน้ำ เพราะเสือตาเดียวเจ้าเล่ห์เอ่ยหยามที่เมาคลีใช้วิธีของมนุษย์เพื่อต่อสู้กับสัตว์ป่าอย่างมัน และสะเก็ดไฟจากคบเพลิงที่ไหม้ลามกิ่งไม้แห้งและต้นหญ้ากลายเป็นไฟป่าที่ไหม้ลามใกล้เข้ามาทุกขณะ จนสัตว์ป่าตัวอื่นเริ่มระส่ำระสาย และบางตัวมองลูกมนุษย์ที่พวกมันเคยมองว่า ไร้พิษสงอย่างหวาดกลัวและไม่เป็นมิตร ซึ่งเป็นไปตามคำยุแยงและตอกย้ำของเสือร้ายที่คอยย้ำว่า มนุษย์อย่างเมาคลีคือตัวอันตรายสำหรับเหล่าสัตว์ป่าและผืนป่าที่เป็นบ้านของพวกมัน แต่เมาคลียังคงยืนประจันหน้า จ้องตาเสือลายพาดกลอนที่จ้องเอาชีวิตของตนมาตั้งแต่หลายปีก่อนอย่างไม่หวาดหวั่น


“เจ้ามันโง่ เมาคลี... เจ้าตัวคนเดียว ไม่มีทางที่จะสู้ข้าได้”


เชียร์คานแสยะยิ้ม ดวงตาสีเหลืองเข้มข้างที่ดีอยู่ของมัน ไม่ได้จับจ้องอยู่เพียงแค่ที่เมาคลี แต่ยังมองเลยมาถึงเสือดำที่เคยพ่ายแพ้แก่มันในครั้งก่อน แม้ไม่ได้เอ่ยปาก แต่บากีร่าก็อ่านออกว่า อีกฝ่ายกำลังถามมันว่า ยังจะเข้าข้างมนุษย์อย่างเมาคลีอยู่อีกกระนั้นหรือ เพราะบัดนี้ แทบไม่มีสัตว์ป่าตัวไหนอยากถือข้างสิ่งมีชีวิตแสนแปลกแยกที่ทำให้บ้านของมันถูกเผาทำลายด้วยดอกไม้สีแดงทุกลุกลามจนยากจะควบคุม


ความเงียบงันที่เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงปะทุของสะเก็ดไฟที่โหมใกล้เข้ามาทุกขณะ ถูกทำลายด้วยเสียงหึคล้ายหัวเราะในลำคอของเชียร์คาน เพราะความเงียบนั้นบ่งบอกให้รู้ว่า มันจะเป็นผู้ชนะเหนือมนุษย์ในไม่ช้า
บากีร่าขยับย่างขึ้นมายืนเคียงคู่กับเมาคลี เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่า เขายังคงมีมันคอยปกป้องอยู่เสมอในฐานะครอบครัวเดียวกัน เช่นเดียวกับรัคชา แม่หมาป่าที่รักลูกมนุษย์เสมือนลูกแท้ ๆ ของมันเอง


“นี่คือกฎแห่งพงไพร เก่าแก่แน่แท้ดั่งท้องฟ้า”


เสียงขานท่องกฎแห่งป่าที่เหล่าหมาป่าแห่งซีโอนีทุกตัวต้องท่องจำจนขึ้นใจดังขึ้น และต้นเสียงทุ้มลึกที่เอ่ยขึ้นนั้น คือ บาลู ครูผู้สอนกฎแห่งป่าให้กับบรรดาลูกหมาป่าทั้งหลายในซีโอนี


บากีร่าสบตากับบาลู แล้วเปล่งเสียงรับ


“เฉกไม้เลื้อยที่โอบพันไม้ใหญ่ ขดว่ายเวียนวนกลับมา”


กฎแห่งป่าที่มันทั้งสองประกาศให้ได้ยินกันโดยทั่วกัน คือ การรับรองว่าเมาคลีเป็นพวกเดียวกับมัน และพวกมันเป็นพวกเดียวกับเมาคลี และการที่มันเป็นสัตว์อื่นซึ่งไม่ใช่หมาป่า แต่กลับจำข้อความเหล่านี้ได้จนขึ้นใจยิ่งกว่าบรรดาหมาป่าเองด้วยซ้ำ ก็เรียกสติของหมาป่าที่เคยเอาใจออกห่างให้กลับคืนมาอีกครั้ง


“หมาป่าใดยึดถือจะก้าวหน้า หมาป่าใดฝืนฝ่าจะวอดวาย”


ทุกเสียงที่ประสานกันท่องกฎแห่งป่าจนจบ คือ สิ่งที่ยืนยันชัดเจนว่า เมาคลีไม่ได้ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป แต่มีบากีร่า บาลู รัคชา และลูกหมาป่าพี่น้องของเขาคอยเคียงข้าง


“ความแข็งแกร่งของฝูงอยู่ที่หมาป่า ความแข็งแกร่งของหมาป่าอยู่ที่ฝูง”


แม้ลูกมนุษย์จะไม่ใช่สิ่งที่เกิดในพงไพร แต่ลูกมนุษย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของพงไพรได้ด้วยเช่นกัน


เหตุการณ์ที่พลิกผันไม่ได้ทำให้เชียร์คานมีท่าทีกังวลใจเลยแม้แต่น้อย แต่มันกลับแค่นเสียงคล้ายหัวเราะ และย่อตัวลงพร้อมโจมตีอย่างไม่รู้จักยอมแพ้


ก่อนที่ร่างสีเหลืองสลับดำนั้นจะพุ่งทะยานเข้าหาร่างเล็กสีน้ำตาลที่เป็นเป้าหมาย ร่างของเสือโคร่งใหญ่ก็ปะทะเข้ากับกำแพงหนาสีน้ำตาลที่ปราดเข้าไปขวาง การเคลื่อนไหวของมันรวดเร็วผิดกับรูปร่างที่ดูเฉื่อยชาและอุ้ยอ้าย บาลูรักสงบและหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับสัตว์อื่นโดยไม่จำเป็นเสมอมา แต่เพื่อปกป้องเมาคลีแล้ว มันกลับกลายเป็นสัตว์ร้ายที่พร้อมที่จะใช้เขี้ยวเล็บที่มีอยู่ตอบโต้สัตว์ที่จะมาทำร้ายมนุษย์น้อยของมัน แต่เพราะพลังของมันถดถอยลงจากการใช้แรงในการต่อสู้กับฝูงลิงบันดาโล้กมาอย่างต่อเนื่อง และความไม่สันทัดในการต่อสู้ ไม่นานนัก หมีใหญ่ที่เคยได้เปรียบก็กลับกลายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ


“ไม่!”


เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีดของเมาคลีเรียกสติของบากีร่าให้กลับคืนมา ตัวของมันชาวาบ เมื่อเห็นเชียร์คานฝังเขี้ยวลงบนลำคอของบาลูที่ถูกกัดและสะบัดจนหงายหลังล้ม


ไม่ต้องรอให้สิ้นเสียง เสือดำหนุ่มกระโจนเข้าใส่เสือโคร่งเฒ่าโดยไม่รอจังหวะให้อีกฝ่ายหยุดพัก และเพื่อให้พ้นไปจากตัวของบาลู ซึ่งมันยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร


พวกมันต่างล้มกลิ้ง ก่อนที่จะลุกยืนขึ้น และส่งเสียงคำรามใส่กันอย่างดุร้าย ดวงตาข้างที่บอดของเชียร์คานดูขุ่นมัวยิ่งกว่าทุกครั้ง ในขณะที่ดวงตาข้างที่ยังดีอยู่วาวโรจน์และจับจ้องยังมันไม่วางตา


“ป่านนี้แล้ว เจ้ายังจะเข้าข้าง ‘ลูกมนุษย์’ ที่นำเอาดอกไม้แดงมาเผาผลาญ ‘ป่าของเรา’ อยู่อีกหรือ” เสือสูงวัยกว่าเอ่ยถาม “ถ้าข้าบอกเจ้าว่า ข้าจะยอมไว้ชีวิตของเมาคลี แต่หนึ่งชีวิตของเขา ต้องแลกด้วยหนึ่งชีวิตของเจ้าล่ะ เจ้ายังจะยอมจ่ายค่าตอบแทนเพื่อซื้อชีวิตของเขาให้อยู่รอดต่อไปอีกอย่างนั้นหรือ บากีร่า”


“ถ้าเจ้าทำตามสัญญา ข้าก็มอบชีวิตของข้าให้เจ้าเพื่อใช้แทนราคาชีวิตของเมาคลีได้” เสือดำตอบอย่างหนักแน่น ดวงตาสีอำพันอมเขียวสว่างของมันสบตอบอีกฝ่ายอย่างไม่สะทกสะท้าน


“ปกติแล้ว ความคิดของเจ้ากับข้าไม่ค่อยตรงกัน แต่หนนี้เจ้าพูดถูกอย่างหนึ่ง เชียร์คาน เรื่องที่ชีวิตข้าแพงนัก เพราะฉะนั้น เจ้าอาจต้องใช้ความพยายามมากหน่อย”


ถึงจะพูดออกไปราวกับว่า มันมั่นใจว่าตนเองจะไม่มีทางพ่ายแพ้ แต่ความจริงแล้วบากีร่าไม่เคยคิดว่า ตนเองจะเอาชนะเชียร์คานในการต่อสู้ได้เลยแม้แต่น้อย


เช่นเดียวกับบาลู บากีร่าใช้พละกำลังและสติปัญญาของมันไปกับการต่อสู้และติดตามเมาคลีไปจนเกือบหมดแล้ว แต่สิ่งที่มันทำในเวลานี้ คือ ยั่วโมโหเชียร์คานให้ขาดสติให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็ได้ผล


เสือลายพาดกลอนคำรามก้อง โถมตัวเข้าหามันด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ตวัดกรงเล็บใส่ร่างของเสือดำที่ถอยหลบทันควัน แต่ก็หนีไม่พ้นจนถูกแรงกระแทกเสียหลัก


“เจ้าไม่เรียนรู้อะไรเลย บากีร่า”


เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกไม่ใส่ใจโต้แย้งคำกล่าวของฝ่ายที่พูดเลยแม้แต่น้อย และแม้จะเสียเปรียบกว่าทั้งรูปร่างและกำลัง แต่ทันทีที่มันพลิกตัวกลับมายืนได้ มันก็กระโจนเข้าตอบโต้อย่างหนักหน่วง แต่ดูเหมือนว่า มันจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย


“เจ้าไม่ได้ใคร่ครวญที่ข้าถามดอกหรือ บากีร่า ว่าทำไมเจ้าจึงพร้อมยอมใช้ราคาชีวิตของเจ้าเพื่อช่วยลูกมนุษย์อย่างเมาคลี”


เชียร์คานถามซ้ำหลังส่งร่างของเสือดำลงไปนอนอยู่กับพื้นอีกครั้งหนึ่ง และในคราวนี้ มันใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิม กว่าจะลุกขึ้นยืนบนสี่เท้าของตัวเองได้


เสือดำหนุ่มกัดกรามแน่น แผลเก่าจากเล็บของเสือเฒ่าในคราวก่อนยังไม่หายสนิท และในเวลานี้ มันได้แผลใหม่เพิ่มมาอีกรอยหนึ่ง กล้ามเนื้อระบมจากแรงกระแทกที่ทำให้รู้ว่า คู่ต่อสู้ไม่ได้ออมมือไว้บ้างอย่างที่ผ่านมา แต่นั่นก็ดีแล้ว


ทำไมมันจะไม่เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้น ตรงกันข้าม ฝ่ายที่ไม่เคยเรียนรู้อะไรเลย คือ เชียร์คานต่างหากเล่า


เพราะมันรู้ว่าเสือโคร่งที่อยู่ตรงหน้าของมันกำลังย่ามใจ และเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นที่จะเอาชนะ เมื่อเอาชนะสัตว์ใหญ่อย่างบาลูได้ตัวหนึ่งแล้ว สัตว์อื่นที่ตัวเล็กกว่าย่อมไม่อยู่ในสายตาของเชียร์คานอีก และมันเชื่อว่า สัตว์ที่มีนิสัยอย่างเสือเฒ่าตาบอดตัวนี้ จะเดินหน้ากำจัดอุปสรรคทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อเข้าถึงตัวเมาคลี ที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ โดยมีรัคชาอยู่เคียงข้าง


มันรู้ตัวดีว่า อย่างไรเสีย มันอาจพ่ายแพ้เชียร์คานในที่สุด และเมาคลีต้องเผชิญหน้ากับคู่อาฆาตของตนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างน้อยที่สุด ถ้ามันทอนกำลังของเชียร์คานและซื้อเวลาให้เมาคลีคิดหาทางหนีทีไล่เอาตัวรอดได้ ลูกมนุษย์ของมันจะได้เปรียบ


แน่นอนที่สุด มันทบทวนคำถามของเชียร์คานครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มันไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะมันรู้ว่า อีกฝ่ายไม่มีวันเข้าใจ


ในครั้งที่มันจ่ายค่าชีวิตของเมาคลีด้วยวัวป่าที่มันล้มได้ บากีร่าไม่ได้คิดสิ่งใดนอกจากลูกมนุษย์อ่อนแอยังไม่สมควรตาย แต่หลังจากวันนั้น สัตว์ที่คุ้นเคยกับชีวิตลำพังและความโดดเดี่ยวอย่างมันกลับทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน มันไม่ได้ทำแค่ยืนมองดูบาลูสอนกฎแห่งป่าอยู่ห่าง ๆ แต่มันยอมเข้าไปช่วยฝึกทักษะการไล่ล่าและหลบหนีให้ลูกหมาป่าด้วย โดยเฉพาะเมาคลีที่มันเฝ้าพร่ำสอน และดูแลเป็นพิเศษ เพราะมันรู้ว่าลูกมนุษย์นั้นแตกต่าง


บากีร่ารู้ว่า เมาคลีรักมัน และมันก็รักเมาคลี และความรักที่มันได้รับตอบแทนจากลูกมนุษย์ในครั้งนี้ แตกต่างจากสิ่งที่มันเคยได้รับเมื่อยังเป็นลูกเสือดำตัวน้อยมากนัก เพราะเมาคลีไม่ได้รักมันในฐานะสัตว์เลี้ยง แต่รัก เพราะมันเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นความรักที่เท่าเทียมกัน ทั้งที่มันกับเมาคลีแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่มันได้รับกลับคืนมาจากการช่วยชีวิตเด็กน้อยคนนั้นให้อยู่ดูโลกต่อไปได้ ไม่มีอะไรมากมายไปกว่าความรัก ซึ่งไม่มีสิ่งใดตอบแทนกลับคืนได้นอกจากการรักตอบ และการเป็นครอบครัวก็เป็นสิ่งที่มีค่าเกินกว่าจะเอาสิ่งใดมาแลกเปลี่ยนหรือใช้ค่าแทนได้


สำหรับบากีร่า เมาคลีไม่ใช่แค่ ‘ลูกมนุษย์’ แต่เมาคลี คือ ครอบครัวของมัน และครอบครัวเป็นสิ่งที่ไม่อาจซื้อหา และไม่อาจประเมินราคาได้ ขอเพียงเมาคลีได้เติบโต เข้มแข็ง และกล้าหาญ ไม่ว่าจะต่อไป เด็กน้อยจะยังคงเป็นของผืนป่าหรือกลับสู่สังคมของมนุษย์ อย่าว่าแต่วัวป่าเลย ทั้งชีวิตของมัน มันก็ยอมใช้ให้ได้เพื่อแลกกับชีวิตของเมาคลี


ในความมืดที่ปกคลุมโดยรอบ และขับเน้นแสงสว่างและเปลวเพลิงอันเกิดจากดอกไม้สีแดงที่บานสะพรั่งทั่วผืนป่า สลัดเกสรสะเก็ดไฟของมันให้ลอยขึ้น กระจายไปทั่ว และเติบโตรุกคืบใกล้เข้ามายังทุ่งหญ้าชายป่าที่พวกมันอยู่ในเวลานี้เข้ามาเรื่อย ๆ แสงของมันสะท้อนไหวอยู่ในดวงตาของสองเสือแห่งซีโอนีที่จดจ้องกันอยู่อย่างไม่วางตา


บากีร่าสูดลมหายใจเข้า รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายที่ยังคงหลงเหลืออยู่ มันร้องคำรามและพุ่งเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ของตนเองที่กระโจนเข้าหามันแทบจะเป็นเวลาเดียวกัน


อุ้งเท้าใหญ่ที่กางเล็บเต็มที่ของเชียร์คานฟาดใส่ตัวของบากีร่าสุดแรง จนร่างเล็กกว่านั้นเสียหลักหงายหลังกระแทกพื้นเต็มรัก ในคราวนี้ เสือตัวใหญ่กว่าไม่รีรอให้ฝ่ายที่เสียเปรียบตั้งตัวติด มันขึ้นคร่อมเหนือผู้แพ้ที่ไม่ทันปิดบังจุดตายที่ลำคอของตัวเองได้ ใช้เท้าเหยียบ และก้มลงหมายฝังเขี้ยวปลิดชีวิตของคู่ต่อสู้ของมัน


อย่างไรก็ตาม บากีร่าพบว่า มันยังไม่ต้องติดตามบาลูไปเร็วเกินไปนัก หากคิดในทางร้ายที่สุดว่าเพื่อนสนิทเพียงตัวเดียวในป่านี้ของมันถูกเชียร์คานสังหารไปแล้ว เพราะรัคชาและฝูงหมาป่าของนางกระโจนเข้าขวาง และกลุ้มรุมเสือร้ายจนถอยออกไปพ้นตัวของมัน


ทันทีที่รอดพ้นจากคมเขี้ยวของเชียร์คาน บากีร่าไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น นอกจากมองหาเมาคลี และสิ่งที่มันเห็น คือ สิ่งที่มันคิดเอาไว้แล้วว่าอาจเกิดขึ้น เพราะมันเลี้ยงลูกมนุษย์ที่เติบโตมาพร้อมกับเหล่าพี่น้องหมาป่ามากับมือ มันอ่านสีหน้าและแววตาของเมาคลีออกได้ไม่ยากเลยว่า เด็กน้อยของมันกำลังจะร่วมสู้พร้อมกับฝูง


“เจ้าอยู่นี่แหละ เมาคลี” มันร้องห้าม พร้อมออกไปขวางไม่ให้คนที่มันสั่งเคลื่อนไหวไปจากที่


“แต่ข้าอยากจะสู้กับเชียร์คานเหมือนพวกหมาป่า!”


“เจ้าสู้กับมันแบบหมาป่าไม่ได้ เพราะเจ้าไม่ใช่หมาป่า...”


น้ำเสียงดุดันและจริงจังของเสือดำทำให้เด็กน้อยจำต้องเงียบ แต่ไม่วายมองอีกฝ่ายด้วยสายตาวิงวอนระคนเสียใจที่ถูกกีดกันออกจากการช่วยเหลือพี่น้อง ทั้งที่ตนเองเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด


แต่แล้ว ดวงตากลมโตของลูกมนุษย์ก็เบิกกว้าง เมื่อเสือดำมองเขาและเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม


“เจ้าเป็นมนุษย์ ก็ต้องสู้อย่างมนุษย์สิ”


เพียงชั่วอึดใจหลังได้ยินคำอนุญาต เมาคลีก็ออกวิ่งและทำในสิ่งที่ตนเองควรทำ ซึ่งบากีร่าเชื่อว่า มันตัดสินใจไม่ผิด




-------------------------------------------------




บากีร่ากระโจนจากกิ่งไม้กิ่งหนึ่งไปยังอีกกิ่งหนึ่ง ซึ่งเคยถูกไฟป่าเผาผลาญมาก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาผ่านไป มวลไม้ที่เคยเป็นเหยื่อของดอกไม้สีแดงครั้งนั้นได้ผลิใบและดอก แตกกิ่งก้านสาขาใหม่อีกครั้ง ด้านหน้าของมัน คือ ร่างสีน้ำตาลของมนุษย์ตัวน้อยที่เอื้อมคว้าเถาวัลย์ ใช้เท้าถีบตัวเองให้ทะยานไปข้างหน้า ก่อนปล่อยมือจากเครื่องทุนแรงนั้นเมื่อถึงกิ่งไม้ใหญ่อีกกิ่งหนึ่ง และปีนลงไปยังจุดหมายที่ถูกกำหนดเอาไว้ว่าเป็นปลายทางของการฝึกหลบหนีและไล่ล่า เมื่อใช้ความสามารถของมนุษย์ เจ้าลูกหมาป่าไม่รู้จักโตและเชื่องช้ากว่าใครเพื่อนในครั้งนั้นกลายเป็นผู้ที่ถึงเส้นชัยก่อนใครเพื่อน


จากลูกมนุษย์ที่เคยเป็นสิ่งแปลกปลอมของผืนป่าจนบากีร่าหวั่นใจว่า จะไม่มีใครยอมรับ อย่างที่มนุษย์ในวังของราชาเคยทำกับมันมาก่อน และคอยปรามไม่ให้เมาคลีใช้ทักษะของมนุษย์ ทว่าในวันนี้ หลังจากเอาชนะเชียร์คานได้ และใช้ปัญญาควบคุมไฟป่าให้ดับลงได้ เมาคลีก็ได้รับการยอมรับจากบรรดาสรรพสัตว์ทั่วทั้งป่า


ตามวิสัยของมันแล้ว บากีร่ายังไม่อยากวางใจท่าทีของพวกสัตว์ป่าเหล่านั้นมากนัก เพราะสัตว์ที่เคยปวารณาตัวเป็นลูกน้องของเชียร์คานอย่างหมาไนและนกแร้งอาจเข้าสวามิภักดิ์กับนายใหม่หรือใครก็ได้ในป่านี้ ที่ให้ประโยชน์กับพวกมันได้ แต่มันก็เชื่อว่า ตราบใดที่มันยังอยู่ใกล้ ๆ เมาคลี มันก็มีอำนาจพอจะปรามสัตว์พวกนั้นอยู่บ้าง


เมาคลีที่ถูกรุมล้อมด้วยพี่น้องหมาป่าโบกมือให้มัน อย่างรื่นเริง “ข้าทำได้ดีใช่ไหม บากีร่า”


“เจ้าทำได้ดีมาก เมาคลี” บากีร่ากระโดดจากต้นไม้ลงมายังพื้นเบื้องล่าง และเดินเคียงคู่ไปกับสัตว์ตัวน้อยที่ยืนหลังตรงและเดินด้วยสองขาตามหลังฝูงลูกหมาป่าวัยรุ่นที่วิ่งนำไปล่วงหน้า


ในเวลานี้ เมาคลีและพวกมันไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวว่าจะมีใครทำร้ายอีกต่อไป เพราะสัตว์ป่าที่เคยมุ่งร้ายมาหลายปีนั้น กลายเป็นฝ่ายที่จากไปก่อน


จุดจบของเชียร์คานที่เสือดำหนุ่มรับรู้จากปากเมาคลีว่า เสือใหญ่ตัวนั้นพลัดตกจากต้นไม้และร่วงหล่นลงไปในกองเพลิงเบื้องล่าง ซึ่งหลังจากวันนั้น ไม่มีใครพบเห็นมันอีกเลย ทำให้โล่งใจและใจหายไปในเวลาเดียวกัน


บากีร่ามองเมาคลีที่อยู่ข้างตัวของมัน และบอกตัวเองว่า ขอเพียงเมาคลีปลอดภัยและมีชีวิตอยู่ เท่านี้ก็คุ้มค่าที่มันยอมเสี่ยงชีวิตทั้งชีวิตเพื่อลูกมนุษย์คนนี้แล้ว




-----------------------------------------------------------------



ส่งท้าย


เมื่อกลับมาถึงที่อยู่ของฝูงหมาป่า การชุมนุมของบรรดาหมาป่ากำลังจะเริ่มต้นขึ้น บากีร่ามองเมาคลีเป็นเชิงถามว่า จะเข้าร่วมหรือไม่ เมาคลียิ้มให้มัน และส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนปีนขึ้นไปเฝ้าสังเกตจากที่สูงอยู่ห่าง ๆ


ระหว่างที่มองดูความเป็นไปเบื้องล่าง เสือดำก็สะดุ้งเฮือก เมื่อกิ่งไม้ใหญ่ที่มันกับเมาคลีอาศัยไหวยวบ ก่อนที่ต้นเหตุของความสั่นสะเทือนนั้นจะปรากฏตัว


บาลู คือ ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้กิ่งไม้สั่นจนน่ากลัวว่าจะลั่นเปรี๊ยะและอาจจะหักจนทำให้มันกับเมาคลีตกลงไปข้างล่าง แต่โชคดีที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น


บากีร่าจ้องหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่นั่งหอบแฮกพิงลำต้นอยู่บนกิ่งไม้กิ่งเดียวกับมัน ท่าทางของมันทำให้เมาคลีหัวเราะคิก


“เดี๋ยวนี้เจ้าปีนต้นไม้ได้แล้วเหรอ บาลู”


“ตั้งแต่ปีนหน้าผาได้ ข้าก็ชักจะติดใจของสูงขึ้นมาแล้วละ” บาลูฉีกยิ้มให้คนถาม แต่สายตามองมายังบากีร่า และขยิบตาให้มัน “มีเสือบางตัวบอกให้ข้ามองมันเอาไว้ ไม่ต้องกลัวความสูง”


เมาคลีฟังคำอธิบายอย่างตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นเช่นเคย ส่วนบาลูหัวเราะหึหึ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจดวงตาสีอำพันที่จ้องหน้ามันเขม็ง ก่อนจะกลายเป็นฝ่ายเมินหน้าหนีไปเอง


บากีร่าถอนใจเฮือก... หมีเฒ่าเจ้าเล่ห์ตัวนี้รู้ดีว่า มันไม่อยากให้เมาคลีเห็นตอนพวกมันเถียงกัน และมันก็เลือกที่จะหันไปมองทางอื่นแทนที่จะชวนทะเลาะในเรื่องที่เด็กน้อยอาจไม่เข้าใจความซับซ้อนของผู้ใหญ่
ไม่นานนัก ความสนใจของเมาคลีก็หันไปอยู่ที่รัคชา แม่หมาป่าของเขา และเป็นจ่าฝูงตัวใหม่ของเหล่าหมาป่าแห่งซีโอนี ซึ่งยืนเด่นอยู่เหนือก้อนหินอันเป็นสภาฝูงแทนที่อาคีล่า อดีตจ่าฝูงผู้ล่วงลับ


เสือดำหนุ่มมองเด็กน้อยที่เปล่งเสียงท่องกฎแห่งป่าไปพร้อมกับเหล่าหมาป่าในสภาฝูง แล้วหันไปมองหมีเฒ่าที่นั่งอยู่ด้วยกันบนคาคบไม้เดียวกัน และลอบยิ้มให้แก่กัน


จริงอย่างที่บาลูเคยพูดกับมัน เมื่อครั้งที่มันขอร้องให้บาลูช่วยพูดกับเมาคลีให้ยอมหวนคืนกลับไปอยู่กับพวกมนุษย์ครั้งนั้น...


เมาคลีเป็นของป่านี้มากพอ ๆ กับที่ไม่ใช่ แต่ไม่ว่าเมาคลีจะเป็นของสถานที่แห่งไหน เมาคลีคือสมาชิกในครอบครัวของมันเช่นเดียวกับที่มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเมาคลี


น่าเสียดายที่เชียร์คานไม่สามารถได้ยินคำตอบที่มันจะบอกอีกต่อไปแล้วว่า สำหรับมันแล้ว คำว่า ‘ครอบครัว’ ที่มีคนที่มันรักและให้ความรักแก่มันตอบแทน เป็นสิ่งที่ใช้อะไรมาแลกก็ไม่อาจแทนค่าได้ และนี่คือสิ่งที่มันเลือกแล้ว



=======================================================


/เป็นตอนที่ยังไม่ได้เอามาลง เพราะรวมอยู่ในแอนโธฯ Claws, Paws and Pals ที่ออกในงานหนัง เสร็จงานแล้ว ก็เลยเอามาลงให้ค่ะ เผื่อว่ามีใครสนใจตามเก็บ เพราะฉบับทีลงในแอนโธฯ มีการรีไรท์ไปจากต้นฉบับที่ลงในทวิตลองเกอร์ก่อนหน้านี้พอสมควร

/เอามาลงไว้ เพราะจะไม่ได้อยู่หน้าคอมพ์ของตัวเองพักใหญ่

/ขอบคุณที่ติดตามค่ะ และขอบคุณทุกท่านที่อุดหนุนแอนโธฯ จังเกิ้ลบุ๊คที่ทำร่วมกับน้อง ๆ ด้วยค่ะ พอน้องเม่ยบอกว่า แอนโธฯ หมด ตกใจมากจริง ๆ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ><



มีตอนแถมของบาลูกับบากีร่านิดนึงตรงนี้นะคะ

http://www.twitlonger.com/show/n_1soqo4q

Reply · Report Post