Consent (สั้นๆ ต่อจากฟิคเรือผี Meet The Parent ที่เคยลงค่ะ)


ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขานอนในห้องเดียวกันและบนเตียงเดียวกัน
และมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลานซล็อตกอดเขา แต่ครั้งนี้ มีอะไรที่แตกต่าง


ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดต้นคอและหลังใบหูทำให้เพอร์ซิวาลข่มตาหลับไม่ได้
ในความมืด ใต้ผืนผ้าห่ม มือของคนที่กอดเขาจากทางด้านหลังไม่ได้อยู่นิ่ง
ลานซล็อตทำมากกว่าแค่นอนกอด อย่างที่เขาเคยอนุญาต และรับปากเอาไว้


ลมหายใจของเขาสะดุด มือที่สอดรองศีรษะอยู่ใต้หมอนคว้าสิ่งที่นอนหนุนอยู่แน่น
เสียงกระซิบเรียก ‘ชื่อจริง’ ของเขามีความนัยบางอย่างที่ทำให้หวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยรู้สึก
ริมฝีปากของคนที่อยู่ข้างหลังกระซิบถามสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดว่า อีกฝ่ายจะถาม
เพอร์ซิวาลไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ทำแค่เพียงเสียงรับในลำคอแผ่วเบา และหลับตาลง


ถึงจะเตรียมใจ แต่เขาก็ยังสะดุ้ง เมื่อเจ้าของแผ่นอกที่แนบชิดติดกับแผ่นหลังของเขาไล้นิ้วบนผิวเนื้อ
แขนที่สอดเข้ามาใต้ตัวโอบเอวเขาเอาไว้ ในขณะที่มืออีกข้างเลื่อนลงแตะต้องส่วนที่ต่ำกว่าใต้เสื้อผ้า
โดยที่ไม่รู้ตัว เขาตะปบมือคว้าข้อมือของคนด้านหลังที่สัมผัสต่ำลงไปเบื้องล่าง ยึดเอาไว้ให้หยุด


“เจมส์...”


ไม่แน่ใจว่า เสียงเรียกของเขาเบาเกินไปหรือเจ้าของชื่อนั้นไม่ได้ยิน
แม้มือข้างที่เขาจับไว้จะหยุด แต่ปลายจมูกยังเคลียอยู่กับต้นคอ ใบหู และบ่า
ถึงจะยอมตามที่เขายับยั้งไว้ แต่เพียงแค่นี้ ก็มากพอที่จะทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้อง


“เพอร์ซี่...”


เสียงขานรับของลานซล็อตนุ่มนวล กลับมาเป็นเช่นที่เขาคุ้นเคย
สองแขนที่โอบกอดยังคงอยู่ แต่งดเว้นการรุกเร้าก่อนหน้านี้ไปเสีย


“ใจเย็น ๆ นะ... หายใจเข้าลึก ๆ ... ไม่มีอะไรแล้ว... ฉันไม่ทำอะไรแล้ว”


มือข้างที่เคยสัมผัสที่ขา เลื่อนขึ้นมาวางบนต้นแขน และลูบเบา ๆ อย่างปลอบโยน
มืออีกข้างของลานซล็อตที่กดทาบอยู่บนอกทำให้เขารู้ว่า หัวใจของเขาเต้นแรงขนาดไหน
เวลานั้นเอง เพอร์ซิวาลเพิ่งรู้ตัวว่า กล้ามเนื้อของเขาเกร็งไปแทบทั้งตัว และเกือบหยุดหายใจ


คนที่นอนข้าง ๆ ดึงตัวของเขาให้พลิกกลับมาหา มองหน้าของเขา แล้วดึงตัวเข้าไปกอด
เพอร์ซิวาลนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขายังทำอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่า เป็นเขาอีกแล้ว ที่ทำให้อีกฝ่ายผิดหวัง
แต่เสียงถอนใจอย่างโล่งออกของอีกฝ่าย เมื่อเขามีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยการกอดตอบ
และคำพูดที่เอ่ยออกมาจากใจทำให้เขาค่อยวางใจ


“ถ้านายไม่พร้อม ก็ไม่เป็นไร ฉันรอได้...”


ไม่มีความเสียดายหรือผิดหวังเจืออยู่ในสีหน้า คำพูด หรือภาษาท่าทางที่ลานซล็อตแสดงออก
ทั้งที่ต้องรอมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงเพราะเขาต้องการเวลา และคราวนี้ ก็จบตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม


หากเป็นคนอื่น คนเหล่านั้นอาจกระเซ้าว่า ทั้งที่เขาทำภารกิจประเภทล่อลวงเพื่อล้วงความลับมากนักต่อนัก
และอาจเรียกได้ว่า เป็นคนที่เมอร์ลินเรียกใช้ในภารกิตอย่างนี้บ่อยครั้งพอสมควร ทั้งที่ภารกิจที่ว่า
ไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยการหลับนอนกับเป้าหมายเสมอไป และเขาเองก็พยายามเลี่ยงไม่ให้ไปถึงจุดนั้น
แต่ไม่มีคำหยอกเย้าประเภทนี้จากลานซล็อตที่ใครต่อใครมองว่า เป็นคนช่างหาเรื่องให้คนหัวเราะได้เสมอ
คู่หูของเขารู้จักเขาดีพอ และไม่เฉพาะกับเขา ลานซล็อตไม่เคยล้อเลียนใครในสิ่งที่พวกเขาเป็นด้วยซ้ำไป


“ขอบใจ”


เพอร์ซิวาลเอ่ย ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะสัมผัสกับริมฝีปากของคนตรงหน้าเพื่อยืนยันในสิ่งที่พูด
และดูเหมือนว่า ลานซล็อตจะกลายเป็นฝ่ายที่ชะงักไปบ้างด้วยความไม่คาดคิด แต่ก็ไม่นานเกินไปนัก
จากจูบแผ่วเบาเมื่อแรกเริ่ม ค่อยแปรเป็นจูบที่เนิ่นนานยิ่งกว่า และลึกซึ้งพอที่จะนำไปสู่สิ่งที่จบไปก่อนหน้า
ร่างกายของพวกเขาเบียดแนบเช่นเดียวกับริมฝีปาก ขาของลานซล็อตเกาะก่ายอยู่กับขาของเพอร์ซิวาล
ต่างคนต่างไขว่คว้าหาสัมผัสจากกันและกัน ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีอาการแข็งขืนใด ๆ เกิดขึ้น


“ฉันสัญญาว่า จะไม่มากไปกว่านี้...” ลานซล็อตกระซิบ “ถ้านายไม่โอเคเมื่อไหร่ ฉันจะหยุดเมื่อนั้น”


เป็นเงื่อนไขที่ง่ายดายสำหรับความสัมพันธ์ที่แนบแน่นยิ่งขึ้นของคนสองคนที่เริ่มใช้ชีวิตด้วยกันเป็นครั้งแรก
แต่ในเงื่อนไขที่ง่ายดายนั้น ก็เต็มไปด้วยการให้เกียรติและเคารพในกันและกัน


เพอร์ซิวาลพยักหน้ารับ และรู้ว่า เขาเชื่อคำพูดของอีกฝ่ายได้ เช่นที่เป็นมาตลอด


และในคราวนี้ เขาเชื่อว่า ทุกอย่างจะ ‘โอเค’ ….


=================================================



Reply · Report Post