Midnight Sun - ไม่ได้เขียนฟิคเลส์มิสฯ มานานแล้ว ขอ R/E กันนิดนึง ><


มิถุนายน 1832


สถานการณ์เข้มข้นขึ้นทุกขณะ หัวหน้านักศึกษาปฏิวัติต่างเคร่งเครียด
มีฝ่ายทางการแทรกซึมเข้ามาได้ หากเจ้าหนูกาฝรอชไม่สังเกตเห็น
และจับตำรวจที่ปลอมตัวแฝงมาไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปบ้าง
แต่ที่แน่ ๆ ความเชื่อมั่นของพวกเขาเริ่มสั่นคลอน เบื้องหลังปราการเงียบงันกว่าที่เคย
จนกระทั่งเฟยยี ตัดสินใจทำลายความเงียบอันน่าหวาดหวั่นนั้นด้วยการเชิญชวนให้ดื่ม
โฌลี และเฌออ็องต่างร้องรับ และดูเหมือนว่า ความพยายามของพวกเขาจะได้ผล


มีรอยยิ้มและแววตาที่แสดงความหวังคืนกลับมา เมื่อพวกเขาดื่มให้เพื่อนและคนเคยคุ้น
แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเหล่านั้นกลับจางหายไป เมื่อกรองแตร์ที่เอ่ยชวนให้ดื่มแด่วันวานเอ่ยถาม


พวกเขากลัวตายหรือไม่ ตายไปแล้ว โลกใบนี้จะยังจดจำเราได้หรือ
เป็นไปได้หรือไม่ ที่ความตายของพวกเขาจะไม่ก่อให้เกิดมรรคผลอันใด


คำถามจากคนที่เอาแต่เมาหัวราน้ำไปวันวันในสายตาคนส่วนใหญ่ทำให้ที่แห่งนั้นเงียบกริบ
แทบไม่มีใครกล้าสบตา แม้แต่ศูนย์กลางและผู้นำทางของทุกคนอย่างกูร์แฟร์รัคและกงบ์แฟร์ก็จนถ้อยคำ
ในเวลาที่ทุกอย่างหยุดนิ่งและเงียบงัน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคลื่อนไหว และก้าวเข้ามาหาเขา


อองโฌลราส์ที่สงบคำและดูเคร่งเครียด เหมือนดวงอาทิตย์ที่ในม่านเมฆมาเนิ่นนานนับแต่ฌาแวรต์ถูกจับได้
ตรงเข้ามาหาคนที่ตั้งคำถามบั่นทอนกำลังใจที่ถูกปลุกให้ฟื้นคืนมาอีกครั้ง สีหน้าเรียบนิ่ง แต่แววตาก็วูบไหว
กรองแตร์มองออกว่า ความเชื่อมั่นของผู้นำของพวกเขากำลังสั่นคลอนไม่ต่างจากทุกคน แต่ต้องเก็บเอาไว้
นั่นไม่เหมือนอองโฌลราส์ของเขา อองโฌลราส์ที่มุ่งมั่น ห้าวหาญ ร้อนแรง ไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใดบนโลกนี้


ก่อนที่อองโฌลราส์จะทันเอ่ยคำ แขนทั้งสองของกรองแตร์ก็โอบรอบและดึงตัวของเขาเข้าไปกอดเอาไว้
ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก กลิ่นไวน์ที่หยดแต้มตามเสื้อผ้าของอีกฝ่ายสัมผัสฆานประสาท แต่มีอะไรบางอย่าง
ที่ทำให้เขารู้สึกได้ว่า คนขี้เมาและไร้ซึ่งศรัทธาในสิ่งใดบนโลกใบนี้ ไม่ได้เมามายเหมือนอย่างที่เคยเป็น
แขนสองข้างที่อยู่รอบตัว และมือที่วางแนบกับแผ่นหลัง เป็นความมั่นคงอย่างเดียวที่เขาสัมผัสได้ในยามนั้น


มันเป็นความเชื่อมั่นที่เขาได้รับจากคนที่ไม่เคยเชื่อมั่นในสิ่งใด
แต่เขารู้ว่า อีกฝ่ายเชื่อมั่นในตัวเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง


หากเป็นก่อนหน้านี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินมาจวนถึงสุดปลายถนนที่ไม่รู้ว่าจะนำไปสู่นรกหรือสวรรค์
อองโฌลราส์อาจผลักไสคนที่กระทำหยาบหยามกับตนเองต่อหน้าคนอื่นได้ถึงเพียงนี้อย่างชิงชัง
แต่สิ่งที่เขาทำในเวลานี้ คือ โอบกอดคนที่กอดเขาเอาไว้เป็นการตอบแทน


ในช่วงนาทีสั้น ๆ ก่อนกรองแตร์จะคลายแขนจากเขา และเซซังกลับไปนั่งที่เดิม แล้วยกขวดเหล้าขึ้นดื่ม
เป็นช่วงเวลาที่ความหวาดกลัวต่ออนาคตข้างหน้าที่แฝงตัวลึกเร้นในใจ และความหวั่นไหวต่อสายตาผู้คน
ที่มองเขาเสมือนเป็นผู้นำและความหวังเพียงหนึ่งเดียวปลาสนาการไปจนสิ้น
เหมือนเมฆหมอกที่ถูกสายลมอบอุ่นวูบหนึ่งพัดพาให้หายไป


อองโฌลราส์ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนบอกให้ทุกคนดื่มให้กับวันวาน และมิตรภาพที่จะไม่มีวันจางหาย
เสียงของผู้คนที่ร้องรับ หวนคืนกลับมามีชีวิตชีวาดังเดิม และเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจอย่างยิ่งในสิ่งที่เขาพูด
เขายิ้มให้กงบ์แฟร์ที่เข้ามาตบบ่าของเขาให้กำลังใจ และเดินตามอีกฝ่ายกับกูร์แฟร์รัคกลับขึ้นไปบนปราการ


ดวงตาสีฟ้าสว่างที่มาดมั่นด้วยความเชื่อแรงกล้าขับเน้นให้ใบหน้าอ่อนหวานราวกับสตรีนั้นห้าวหาญกว่าเก่า
เสียงที่เอ่ยทักและปลุกปลอบเพื่อนร่วมศึกให้เชื่อว่าวิถีทางของพวกเขาจะได้รับชัยชนะกังวานกว่าทุกครั้ง


ระหว่างที่นั่งฟังมาริอุสเริ่มพร่ำพูดปรับทุกข์ที่โกแซตต์ หญิงสาวที่ตนเองหลงรักซึ่งจากไปโดยไม่ลา
กรองแตร์ลอบมองผู้นำประชาชนปฏิวัติเงียบ ๆ ยกขวดเหล้าขึ้นดื่ม และยิ้มกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า




ในความมืดมนของค่ำคืน ดวงตะวันหนึ่งเดียวของพวกเขากลับมาฉายแสงอีกครั้ง



===========================================


แด่เพลง Drink With Me ท่อนของกรองแตร์ที่โดนตัดไปจากหนัง Les Miserables ปี 2012 ค่ะ TwT
ท่อนของกรองแตร์นั้นสำคัญมากจริงๆ มันสะท้อนทั้งตัวตนและตั้งคำถามกับสิ่งที่ทำอยู่ไว้ดีมาก

Drink with me to days gone by
Can it be you fear to die?
Will the world remember you
When you fall?
Could it be your death
Means nothing at all?
Is your life just one more lie?

เลยขอหน่อยเถอะ ชดเชยที่โดนหั่นไปในหนัง.... /แลดูแค้นฝังหุ่นมาก ฮ่า

โมเม้นต์นี้ยืมมาจากเวอร์ชั่นของ Martin Neely กับ Killian Donnelly (กงบ์แฟร์ในหนังนั่นเอง) ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=yqc3YwxCERM


ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ ^^


Reply · Report Post