Ne me quitte pas /เรือผีสั้น ๆ /ขอบคุณที่สนับสนุนฟิคในงานคิงส์แมนค่ะ ><


(1)

หลังจากภารกิจในฝรั่งเศสเสร็จสิ้น
พวกเขานั่งอยู่บริเวณล็อบบี้บาร์ของโรงแรมเมอรีซใกล้กับปลาซเดอลากงกอร์

เพอร์ซิวาลปล่อยให้น้ำแข็งในแก้วของตัวเองละลาย
ในขณะที่ลานซล็อตไม่ได้ใส่ใจกับเบอร์เบินที่อยู่ในแก้วในมือ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ซึ่งไม่่ใช่ความผิดของใครเลยสักคน
คำพูดที่พวกเขาแลกเปลี่ยนกันก่อนหน้าจะมาที่นี่ ทำให้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...


ลานซล็อตมองหน้าคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมสีน้ำตาล ซึ่งไม่ยอมสบตากับเขา
แต่เขาไม่รู้ว่า ในเวลาที่เขาเสมองไปที่อื่นเสีย เพอร์ซิวาลหันมามองเขา
และต่างคนต่างถอนใจ... ความเงียบไม่ใช่สิ่งเติมเต็ม ไม่ใช่สิ่งกั้นขวาง
แต่เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ไร้คำอธิบาย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากคำขอได้รับการปฏิเสธ


ลานซล็อตบอกรัก เพอร์ซิวาลตอบปฏิเสธ ทั้งคำถามคำตอบล้วนง่ายดาย
แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากถ้อยคำที่ชัดเจนล่วงพ้นจากปาก


ในเวลานี้ พวกเขาไม่ได้เอ่ยสิ่งใดต่อกัน ทั้งที่ต่างคนต่างมีความในใจ
และเสียงเพลงจากนักดนตรีในล็อบบี้ คือ เสียงที่พูดแทนสิ่งที่พวกเขาต่างเก็บไว้ในใจ
โดยที่ต่างคนต่างไม่เคยล่วงรู้ความรู้สึกนั้นของกันและกัน
.
.
.
Ne me quitte pas...

"อย่าจากฉันไปได้ไหม
.
ได้โปรดลืมเถอะ ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นวันเวลา และความเข้าใจผิดทั้งหลาย
หรือช่วงเวลาที่ต้องสูญเสียไป
กับการทำความเข้าใจว่าจะทำอย่างไร

พยายามลืมช่วงเวลาเหล่านี้ไปเสียเถิด

ทั้งช่วงเวลาที่เหมือนจะฆ่าเราให้ตาย
และคำถามว่า 'ทำไม' ที่เหมือนความเจ็บปวด
กระหน่ำลงไปในใจกลางของความสุข
.
ได้โปรดอย่าจากฉันไปเลยนะ
ได้โปรดอย่าจากฉันไป..."



(2)

หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เมอร์ลินแยกพวกเขาจากกัน ราวกับรับรู้ถึงความผิดปกติ
เพอร์ซิวาลยังคงนั่งข้างลานซล็อตตามตำแหน่งที่กำหนดเอาไว้ แต่ก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิม
คนที่เคยสนิท เคยกอดคอกัน เล่นหัวกัน ต่างกลับเงียบงัน ไร้คำพูด และไร้หัวข้อสนทนา

ไม่มีใครอื่นที่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ฝรั่งเศส

ระหว่างงานเลี้ยงขององค์กรช่วงวันคริสต์มาส พวกเขาพบกันอีกครั้ง ไม่มีใครเลี่ยงกันได้
เพอร์ซิวาลยังคงแยกตัวออกจากกลุ่มผู้คน และนั่งมองความเป็นไปของงานอย่างเงียบ ๆ
ลานซล็อตยิ้มและหัวเราะอยู่ในวงสนทนากับเพื่อนสายลับ ทักทายใครต่อใครไม่ขาดปาก
แต่บางเสี้ยวนาที ที่ไม่มีใครทันสังเกต ลานซล็อตลอบมองเพอร์ซิวาลที่เร้นกายไปจากคนอื่น


ความโดดเดี่ยวท่ามกลางผู้คน อาจเป็นสิ่งที่สามารถอธิบายความรู้สึกของพวกเขาไม่ต่างกัน

ลานซล็อตยังคงไม่รู้ว่า เพอร์ซิวาลคิดอย่างไร เขาจดจำได้เพียงคำปฏิเสธจากปากอีกฝ่าย
และถ้าเป็นไปได้ เขาหวังเหลือเกินว่า ใครอีกคนหนึ่งจะยอมกลับมาพูดคุยกับอีกสักครั้ง


และเช่นเดียวกับค่ำคืนที่พวกเขานั่งอยู่ด้วยกันในล็อบบี้ของเลอเมอรีซ
Ne me quitte pas ทีดังขึ้นเป็นฉากหลังของงานเลี้ยง คือ สิ่งที่เอ่ยแทนความรู้สึกของเขาได้ดีที่สุด
.
.
.
"อย่าจากฉันไปเลยนะ
ได้โปรดอย่าจากฉันไป
.
ฉันจะมอบไข่่มุกจากหยาดฝนที่ร่วงหล่นในดินแดนที่ฝนไม่เคยตกให้
ฉันจะขุดหาทรัพย์ในดินจนกว่าจะหมดลมหายใจ
เพื่อที่จะนำเอาทองคำสุกสว่างมาห่มคลุมร่างทั้งร่างของเธอ
ฉันจะสร้างดินแดนที่ความรักคือราชาผู้ปกครอง
ความรักคือกฎหมาย และมีเธอเป็นราชินี
.
อย่าจากฉันไปเลยได้ไหม
อย่าจากฉันไปเลยนะ
อย่าจากฉันไป
.
ฉันจะประดิษฐ์ถ้อยคำซึ่งไร้ความหมาย
แต่เป็นคำที่มีจะเพียงเธอที่ฟังแล้วเข้าใจ
และฉันจะพูดคำเหล่ากับเธอ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของ
คนรักสองคนที่หัวใจของพวกเขาหวนกลับมาโอบกอดกันอีกครั้ง
และเรื่องราวของราชาที่สิ้นใจเพราะไม่อาจทำความรู้จักกับเธอ
.
อย่าจากฉันไปเลยนะ
อย่าจากฉันไป
ได้โปรดอย่าจากฉันไป"


(3)

เมอร์ลินอาจพูดถูกเรื่องที่พวกเขาควรพูดคุยทำความเข้าใจกัน
เรื่องเกี่ยวกับลานซล็อตที่เพอร์ซิวาลได้รับรู้จากหัวหน้าฝ่ายพลาธิการทำให้เขากังวล
เขารู้ว่า อีกฝ่ายคอยมองเขาอยู่ห่าง ๆ แต่พยายามหักห้ามใจที่จะไม่ล้ำเส้นเข้ามาอีก
การทำอย่างนั้น ยิ่งตอกย้ำให้เพอร์ซิวาลรู้ว่า ลานซล็อตแคร์ความรู้สึกของเขายิ่งกว่าอื่นใด

ผลการปฏิบัติภารกิจที่บ้าระห่ำมากขึ้น มีสมาธิน้อยลงที่เมอร์ลินเปรยให้เขาได้ยิน
เพอร์ซิวาลรู้ว่า มีสาเหตุมาจากสิ่งใด และนั่นก็ทำให้เขาตัดสินใจรับปากว่า กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้ง
ไม่ใช่แค่เพื่อองค์กรคิงส์แมน หรือเพื่อลานซล็อตเอง แต่เพื่อตัวของเขาเองด้วย


เขาไม่อยากเห็นลานซล็อตได้รับอันตราย เขาอยากกลับไปยืนในที่ที่เขาเคยยืนอยู่เคียงข้างกัน
เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นอีกฝ่ายเป็นอะไรไป และโอกาสเดียวที่จะปกป้องลานซล็อตได้ คือ เขาต้องอยู่ที่นั่น


เพอร์ซิวาลไม่รู้ว่า ลานซล็อตจะยอมกลับมาพูดกับเขาอีกครั้งหรือไม่ แต่ก็ไม่เป็นไร
ขอแค่เขาได้ทำหน้าที่ของตัวเอง เพื่อให้อีกฝ่ายไม่จากเขาไปโดยไม่เข้าใจกัน


ขอโอกาสแค่อีกครั้ง.... อย่างในเพลงที่พวกเขาเคยฟังด้วยกันที่เลอเมอรีซกล่าวเอาไว้
.
.
:
"อย่าจากฉันไปเลยนะ
ได้โปรดอย่าจากฉันไป

เราเคยเห็นภูเขาไฟที่ใครคิดว่าสงบลงไปแล้ว
กลับฟื้นคืน มีเปลวไฟและหินหลอมละลายปะทุขึ้นอีกครั้ง
หรือเป็นผื่นแผ่นดินที่เคยถูกไฟผลาญเผาจนแตกระแหง
แต่กลับผลิตข้าวสาลีได้มากมายยิ่งกว่าเดือนเมษาอันแสนอุดมสมบูรณ์
อีกทั้งโมงยามที่แสงสีดำและแดงบนฟากฟ้าซึ่งกลมกลืนกันจนเป็นหนึ่งเดียว
.
อย่าจากฉันไปเลยนะ
ได้โปรดอย่าจากฉันไป
โปรดอย่าจากฉันไป"



(4)


ในสายลมหนาว เพอร์ซิวาลกระชับเสื้อโค้ตสีดำสนิทที่สวมอยู่ จัดผ้าพันคอสีเข้มให้เข้าที่
ก้าวเดินจากออกจากประตูรั้วของสุสานเพื่อไปยังรถยนต์ที่จอดเอาไว้ริมถนนด้านนอก

ควันสีขาวจากลมหายใจที่ปะทะกับอากาศเยียบเย็นปลายฤดูใบไม้ผลิบดบังภาพเบื้องหน้าไปชั่วครู่
ภาพของคืนวันเก่า พร้อมกับเสียงเพลงที่พร่ำวิงวอนว่าอย่าจากฉันไปในวันนั้นปรากฏขึ้นในความทรงจำ

.
.
"อย่าจากฉันไปเลยนะ
ฉันจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว
ฉันจะไม่เอ่ยสิ่งใดอีกต่อไป

ฉันจะซ่อนกายอยู่ที่นั่น
เพื่อที่จะได้คอยมอง
เธอเต้นรำ และยิ้ม
เพื่อที่จะได้ฟังเสียงเธอ
ยามที่ร้องเพลง และหัวเราะ

ให้ฉันได้เป็นเงาในเงาของเธอ
เป็นเงาของมือเธอ
ของสุนัขที่ซื่อสัตย์ของเธอ
.
อย่าจากฉันไปได้ไหม
อย่าจากฉันไปเลย"
.
.
เพอร์ซิวาลหยุดยืนอยู่กับที่ และสัมผัสแหวนที่เขาแลกกับใครอีกคนที่สวมอยู่บนนิ้วก้อย
บทเพลงนั้น ไม่ได้ให้คำตอบว่า คำร้องขอไม่ให้อีกฝ่ายจากไปนั้น จบลงอย่างสมหวังหรือไม่
แต่สำหรับเขาแล้ว เขาไม่เสียใจที่ทำในสิ่งที่หัวใจของตัวเองบอกเป็นครั้งแรก


"ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะ" เสียงทักของลานซล็อตปลุกเขาขึ้นจากภวังค์ "นายไม่เป็นไรใช่ไหม"
คำถามที่แสดงความห่วงใยอย่างเปิดเผย ทำให้เพอร์ซิวาลยิ้มออกมาได้ ก่อนส่ายหน้าปฏิเสธ

ทุกปี เขามาเยี่ยมหลุมฝังศพของลานซล็อตคนก่อนที่จากไปก่อนที่ลานซล็อตคนปัจจุบันจะเข้ามา
น่าขันอยู่ไม่น้อย ที่ลานซล็อตคนก่อนที่เขาเคารพจากไป ก่อนมีลานซล็อตคนใหม่ที่เขารักมาเคียงข้าง

"เราจะไปที่ร้านกันเลยไหม" เพอร์ซิวาลถาม และเดินไปที่รถพร้อมกับคู่หูที่ยังไม่จากเขาไปไหน

ลานซล็อตผิวปากอย่างอารมณ์ดี และไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ บทเพลงเก่าเพลงนั้นได้หวนคืนมาอีกครั้ง
และหากสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ในเวลานี้จะเป็นคำตอบหรือบทสรุปให้กับคำขอที่ต่างฝ่ายต่างคาดหวังได้


คำขอว่า อย่าจากฉันไปได้ไหม.... ได้รับการตอบรับแล้ว

Reply · Report Post