NC MYVLT- EDITED2


และแล้วผมก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องของไอ้มินโฮด้วยชุดเสื้อเชิ้ตขาวบางที่ใหญ่กว่าขนาดตัวของผม ด้านล่างของผมมีแค่กางเกงในสีดำตัวเดียว และเจ้าผ้าเจ้าปัญหาที่ผมเอามาผูกโบว์ไว้ที่คอของตัวเอง

ผมเคาะประตูห้องเบาๆด้วยใจที่เต้นแรง หลังจากเคาะเสร็จ ผมก็จับปลายเสื้อให้มันดีๆ ผมพยายามจะดึงให้มันปิดด้านล่างของผมให้มากที่สุด

ผมนึกแปลกใจกับตัวเอง ปกติผมไม่เคยจะตื่นเต้นขนาดนี้เลย เวลาที่ผมเปลือยร่างกายแบบนี้ แต่คราวนี้มันคงเป็นเพราะไอ้หมีบ้าที่มันชอบแกล้ง ชอบมองทำให้ผมเขิน

และผมก็ไม่ได้รอนานมากนัก มินโฮเปิดประตูห้องตัวเองออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้างเหมือนคนเสียสติ มันมองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ไอ้การมองแบบนี้ทำให้หน้าของผมเริ่มร้อนไปหมด ผมยกมือขึ้นมาจับที่แก้มของตัวเอง โดยหวังว่าหน้าของผมจะเย็นลงได้บ้างไม่มากก็น้อย

“เลิกมองได้แล้ว...”
“เข้ามาก่อนสิ” มันจับข้อมือเรียวเล็กของผมแล้วดึงเข้ามาในห้อง มันอยู่ในชุดเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นที่มันชอบใส่นอนเป็นประจำ รอยสักที่โผล่ออกมาจากแขนเสื้อกล้ามทำให้ใจผมสั่นระรัว รอยสักนั่นทำให้ผมนึกถึงเวลาที่เรามีอะไรกัน...

อ่า... ผมว่าตอนนี้ทั้งตัวผมคงแดงไปหมดแล้วแน่ๆเลย (-//////////-)

“เขินอะไรของนาย” มันพูดยิ้มๆ น้ำเสียงติดว่าจะแซวผมหน่อยๆ ผมเดินมาที่เตียงของมันแล้วนั่งลง ผมเอาผ้าห่มบนเตียงของมันมาห่อหุ้มตัวเอาไว้

“...”

มินโฮหัวเราะผมเสียงดัง มันเดินมานั่งข้างๆ ก้อนผ้าห่มที่ผมทำขึ้นมา “พูดอะไรซักหน่อยสิ”
ผมส่ายหน้า เวลานี้มันคาดหวังจะให้ผมพูดว่าอะไร? มีอะไรกันเถอะหรอ? หรือ เร็วๆเข้า ฉันหนาวแบบนี้งั้นหรอ? (-//////-)
“...”

“ยุนน่า” มันอ้อนแล้วจับผ้าที่ผูกอยู่ที่คอของผมตอนนี้ ไอ้ผ้าสีแดงนุ่มนิ่มนี่วางอยู่ด้านล่างสุดในชุดที่มันเตรียมไว้ให้ผม และมันเขียนโน้ตทิ้งเอาไว้ว่าให้ผมเลือกระหว่างผูกคอหรือผูกผม ผมตัดสินใจเลือกปิดเหม่งตัวเองและเอามาผูกคอของตัวเองในที่สุด “ผูกคอแบบนี้แล้วนายเหมือนลูกหมาเลย น่ารักจัง”

ผมทำหน้ายู่ เมื่อได้ยินมันชมผมแบบเลี่ยนๆ “บอกแล้วไงว่าอย่าบอกว่าฉันน่ารัก”
“ไม่ชอบหรอ” มันแกล้งถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ เสียงทุ้มต่ำของมินโฮทำให้ผมนึกถึงหมาป่าในเรื่องหนูน้อยหมวกแดง และผมกำลังเป็นหนูน้อยหมวกแดงที่กำลังจะโดนหมาป่าตัวนี้ขยำ... ผมหมายถึงขย้ำสิ ขย้ำ

อ่า... ผมพูดผิด (-//////////////-)

ผมตั้งสติอีกครั้งแล้วกลืนน้ำลายลงไปด้วยความประหม่าก่อนจะตอบออกไป “ไม่”

มันเชยคางผมให้หันไปหามันแล้วจูบที่ปากอิ่มของผมเบาๆ “ปากนายก็นุ่มออก ทำไมถึงชอบทำปากแข็งนัก หืม?”
ผมผลักมันออกแล้วพูดด้วยหน้าที่แดงก่ำ “มินโฮ ฉันง่วงแล้ว”
“แหน๊ะ” มันแซวพร้อมกับเล่นที่ผ้านุ่มนิ่มที่ผูกเป็นโบว์อยู่ที่คอของผม เส้นเลือดที่อยู่ตรงคอของผมกำลังเต้นตุบๆจนน่ารำคาญ “อยากให้ฮยองคนนี้ทำอะไรให้งั้นหรอ”

ผมเกลียดเวลาที่มินโฮพูดยั่วผมแบบนี้ หน้าของผมมันร้อนผ่าวไปหมด ผมตัดสินใจลุกขึ้นยืนทันทีโดยมีผ้าห่มของมันพันตัวไว้อยู่แบบนั้น

“ถ้านายยังแกล้งฉันไม่เลิก ฉันจะกลับห้องแล้ว”
“โอ๋!” มินโฮลุกขึ้นมาแล้วกอดผมเอาไว้จากด้านหลัง “ทำไมขี้งอนจังเลยเล่า” มันซุกไซร้ที่แก้มนุ่มของผมจนผมรู้สึกจั๊กกะจี๋แบบแปลกๆ ตอนนี้หนวดและเคราของมินโฮมันทิ่มที่แก้มของผมเบาๆ ผมยังคงได้กลิ่นครีมโกนหนวดจากหน้าของมัน

ผมดีใจที่มันโกนหนวดที่ผมบอกว่าผมไม่ชอบออก

มันนั่งลงที่เตียงของตัวเองก่อนจะดึงผมให้เซหล่นลงไปนั่งอยู่ระหว่างตักของมัน สัมผัสเกเรจากมือของมินโฮทำให้ผมเกร็งไปทั่วทั้งร่าง มันดึงผ้าห่มออกจากตัวของผม ร่างกายของผมมันเย็นวาบขึ้นมาทันทีจากอากาศภายในห้อง ขนของผมลุกไปทั้งตัว มินโฮเขยิบตัวเข้าไปชิดติดผนังแล้วรวบผมให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดและพิงมันเอาไว้ ผมไม่รู้จะทำตัวยังไง ความรู้สึกแบบนี้มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ผมนั่งชันเข่าขึ้นมาเพื่อที่จะไม่ให้ไอ้หมีหื่นด้านหลังมันเห็นความตื่นตัวที่กำลังก่อตัวขึ้น

“วันนี้ทำไมนายน่ารักจัง” คำพูดหวานๆทำให้ผมอยากจะเปิดปากบ่นมันอีกครั้งแต่ก็ถูกทดแทนด้วยเสียงครางต่ำของตัวผมเอง นี่เจ้าร่างกายของผมมันไม่คิดจะเชื่อฟังผมเลยรึไงกันนะ

“อือ...” ผมเอามือปิดปากตัวเองเพื่อที่จะให้เสียงครางออกมาน้อยมากที่สุด แต่ไอ้คนที่นั่งซ้อนผมอยู่ทางด้านหลังมันเหมือนกับจะต้องการในสิ่งที่ตรงกันข้าม มันเลียเล่นอยู่ตรงคอของผม จงใจเน้นลิ้นอุ่นหนักๆตรงบริเวณเส้นเลือดของผมที่เต้นตุบๆ

ผมหลุดครางออกมาหลายครั้งอย่างอดรนทนไม่ได้ ผ้านุ่มนิ่มที่ผูกคอผมนั้นมันเริ่มเปียกชื้นไปหมด และรวมไปถึงด้านล่างของผมด้วย (-////////////-)

“วันนี้นายน่ารัก สงสัยต้องตบรางวัลให้อย่างงามแล้วล่ะ” มันพูดก่อนจะค่อยๆปลดโบว์ออกจากคอของผม แต่แทนที่ผ้าผืนนั้นจะถูกนำไปวางไว้ที่อื่น ตอนนี้มันกลับถูกนำมาบดบังดวงตาคู่สวยของผมแทน

“ไม่เอา!” ผมโวยวาย แต่มินโฮกลับรีบเอามือปิดปากของผมไว้

“ชู่! เสียงดังแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นก็ตื่นมาแอบฟังเราหรอก นายคงไม่ได้อยากให้ใครมาแอบฟังพวกเราหรอกจริงไหม” และนั่นก็ทำให้ผมได้แต่หน้าบึ้งแล้วก็พยายามจะลุกขึ้นอีกครั้ง

“จะไปไหน” คนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังกลับกอดเอวผมไว้แน่น เสื้อผ้าของผมหลุดลุ่ยออกมาทันทีหลังจากที่ผมพยายามจะขยับตัวเมื่อตะกี้ นี่มันปลดกระดุมเสื้อของผมไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เสื้อเชิ้ตขาวบางมันหลุดลุ่ยลงมากองอยู่ที่ตรงแขน มินโฮรวบทั้งตัวของผมเอาไว้เพื่อไม่ให้ผมลุกหนีไปไหน มันใช้ปากทั้งจูบ ทั้งงับตรงไหล่ของผมเล่นอย่างเอาใจ

“อย่าไปเลยนะซึงยุน วันนี้เราทำงานทั้งวัน ยังไม่ได้หวานกันเลยนะ”
ผมถอนหายใจ ผมแปลกใจตัวเองที่ไม่เคยจะขัดใจมินโฮได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมใจอ่อนกับเสียงอ้อนๆทุ้มต่ำของมันอีกครั้ง “นายสัญญามาก่อนว่าจะแค่ปิดตาเท่านั้น และจะไม่เล่นอะไรพิเรนทร์ หรือท่าพิศดารเด็ดขาด”

และคำพูดของผมไปจี้โดนใจดำของมันหรือไงก็ไม่รู้ มินโฮหัวเราะออกมาเสียงดังทันที “แล้วถ้านายขอล่ะคังซึงยุน”

“ไอ้มินโฮ..”

มันหัวเราะอีกครั้งแล้วยกมือชูขึ้นสามนิ้ว “ด้วยเกียรติของลูกเสือ ผมสัญญาว่าจะไม่เล่นพิเรนทร์และไม่เล่นท่าพิศดารครับ”

และนั่นก็ทำให้ผมยอมกลับมานั่งนิ่งๆในอ้อมกอดของซงมินโฮอีกครั้ง ไหล่ของมินโฮกว้างขึ้นมากหลังจากที่ไปเล่นเวทเทรนนิ่ง ไหล่กว้างกับอกหนาของมินโฮทำให้ใจของผมเต้นแรงผิดปกติในช่วงหลังๆมานี้... (-//////..//////-)

“ปิดตานะ” มันพูดแล้วก็เอาผ้าที่คล้ายโบว์เส้นใหญ่นุ่มนิ่มสีแดงสดมาปิดตาของผมเอาไว้ “ฉันสัญญาว่าจะทำในสิ่งที่นายมีความสุขเท่านั้นซึงยุน” มันพูดอ้อนแล้วจูบและดูดเบาๆที่ไหล่บางของผม และเมื่อการรับรู้ทางสายตาผมถูกปิดไป สัมผัสต่างๆจากมินโฮเลยทำให้ผมตื่นเต้นมากกว่าปกติ ผมสามารถรู้สึกถึงรอยจูบทุกรอยที่มันเฝ้าจูบมากขึ้นกว่าเดิม

หัวใจของผมมันเต้นแรง เลือดของผมมันกำลังสูบฉีด ผมรู้สึกว่าทั้งตัวของผมมันกำลังร้อนไปหมด ความรู้สึกมันเอ่อล้นตรงส่วนที่ผมโดนมันสัมผัส การที่ผมไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ามินโฮจะสัมผัสร่างกายของผมตรงไหนต่อทำให้ผมหายใจไม่ออก สัมผัสเกเรจากมืออุ่นสากของมินโฮทำให้ร่างกายผมเริ่มตอบสนอง... และต้องการมันมากยิ่งขึ้น

“อ๊ะ..” เสียงครางต่ำที่ผมรังเกียจหลุดออกมาจากปากของผม เมื่อมินโฮบีบนวดคลึงตรงหน้าอกทั้งสองข้าง มันใช้นิ้วโป้งสากหนาแกล้งปาดเล่นแรงๆจนผมครางออกมาด้วยเสียงที่น่าเกลียด “มิน...โฮ..”

ผมได้ยินเสียงทุ่มต่ำของมินโฮหัวเราะเบาๆ และรวมไปถึงส่วนอ่อนไหวด้านล่างของมันที่ขยายตัวแล้วชนอยู่ที่ด้านหลังของผมด้วย ผมยกมือขึ้นเพื่อที่จะแกะผ้าที่ผูกปิดตาผมไว้ แต่ก็โดนคนที่นั่งซ้อนอยู่ทางด้านหลังจับเอามือออก

“ไม่ได้นะ ห้ามเอาออกสิ” มันพูดงอนๆ “ถ้ามือของนายยังไม่อยู่เฉยๆ ฉันจะมัดมือนายด้วยนะซึงยุนนี่”
“คราวหน้าฉันจะไม่ยอมสัญญาอะไรกับนายแบบนี้อีกแล้ว” ผมบ่น

“เชื่อสิว่าคราวหน้าเดี๋ยวนายก็ลืมอีก ซึงยุน” มินโฮพูดเสร็จมันก็จับขาของผมให้แยกออกจากกัน ผมพยายามจะฝืนตัวเองแต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน มันยากตรงที่ผมนั้นไม่มีแรงทั้งกายและใจในการจะต่อต้านมินโฮในตอนนี้...

“ท่านี้มันเขินอะ...” ผมบ่นด้วยเสียงกระซิบแหบพร่า
“นายไม่เห็นซะหน่อย” มันหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์และจับให้ผมพิงมาที่อกกว้างของมันเอาไว้ ร่างกายของเราแนบชิดติดกันพอดี ด้านหลังของผมรู้สึกถึงส่วนอ่อนไหวอุ่นๆของมัน มันฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีก่อนจะแยกขาของผมออกให้กว้างมากขึ้น ผมเอามือปิดหน้าด้วยความอับอาย ทำไมคนอย่างผมต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วยนะ... (T///////////T)

“คอยดูนะ! ฉันจะต้องแก้...อ๊ะ...” ผมพึมพำไม่ทันได้จบประโยค ไอ้คนหื่นกามด้านหลังก็จู่โจมที่ส่วนอ่อนไหวด้านล่างของผมทันทีราวกับตั้งใจรอเพื่อที่จะทำแบบนี้ตอนที่ผมปริปากบ่น ความรู้สึกชื้นแฉะรวมไปถึงเสียงหยุบหยับที่มันนวดคลึงตรงส่วนอ่อนไหวผ่านกางเกงในเปียกชุ่มที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความใคร่ของผมทำให้ผมแทบคลั่ง ผมหลุดครางออกมาทุกครั้งที่มันลงแรงมากขึ้น เสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์ของมินโฮทำให้ผมแทบจะละลายไปกับอกกว้างของมัน

“อา...มินโฮย่า...มินโฮ...”

“อือออ” มันตอบรับผมด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำมากกว่าเดิม เสียงของมันเต็มไปด้วยความปรารถนา มันค่อยๆถอดกางเกงในของผมออก ผมยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยด้วยความเคยชิน มันหัวเราะหึๆก่อนจะถามคำถามที่น่าอายด้วยเสียงที่แหบพร่าอีกครั้ง
“ชอบไหม”
“... (-///3///-)” ผมกัดปากตัวเองแน่น มันใช่เวลาไหมที่จะมาถามกันแบบนี้ ถ้าจะถาม ถ้าจะคุย มันควรจะหยุดทรมานผมด้วยมือเกเรของมันเสียก่อน “อ๊ะ...อืม...” ผมกัดปากตัวเองแน่นด้วยความเสียวซ่านแล้วเงยหน้าขึ้นเพื่อที่จะระบายความเสียวที่แน่นอยู่เต็มอก มันถือโอกาสซุกไซร้ที่คอขาวของผม ผมปิดตาแน่นและวางมือข้างขวาไว้บนมือของมันที่กำลังนวดคลึงรูดรั้งส่วนอ่อนไหวของผม ลมหายใจของผมหายไปทุกครั้งที่คนทะลึ่งแกล้งจับแน่นๆแล้วรูดเร็วๆ หลายๆที

“อา...ไอ้บ้า...มินโฮ” ผมกร่นด่ามันด้วยเสียงกระซิบที่แหบพร่า เพราะไอ้ผ้าที่มันเอามาปิดตาผมทำให้ทุกสัมผัสที่มันสัมผัสทำให้ผมรู้สึกแปลกๆมากกว่าเดิม

“ซึงยุนน่า” มันเรียกชื่อผมด้วยเสียงที่แหบพร่าไม่แพ้กัน “วันนี้นายน่ารัก… น่ารักที่สุด”

คำพูดเลี่ยนๆของมินโฮทำให้ใจของผมกระตุก ผมอยากจะปลดปล่อยมากเหลือเกิน แต่ติดอยู่ที่คนขี้แกล้งด้านหลัง มันแกล้งผมด้วยจังหวะเร็วสลับกับช้า และพอผมกำลังจะปลดปล่อย ไอ้หมีบ้านี่ก็หัวเราะแล้วจับของผมเอาไว้แน่นๆจนด้านล่างของผมมันกำลังอึดอัดคับแน่นไปด้วยความต้องการ

ผมตีขาของมันไปแรงๆทีนึงอย่างงอนๆ แต่ดูเหมือนว่าการตีของผมมันกลับไปกระตุ้นนิสัยขี้แกล้งของมินโฮมากขึ้นไปอีก มันดึงจังหวะรูดรั้งที่ด้านล่างให้ช้าลงแต่กลับมางับเล่นที่หูของผมเบาๆ มันแกล้งครางเสียงต่ำให้ผมตื่นเต้น ร่างกายด้านล่างของผมตอบสนองทุกครั้งที่ได้ยินเสียงของมินโฮครางต่ำๆ ผมจับซ้อนที่มือของมันแล้วพยายามจะรูดรั้งส่วนอ่อนไหวเพื่อช่วยตัวเอง แต่คนตรงกลับหยุดมือเอาดื้อๆ

“อย่า...แกล้งสิ..” ผมบ่นพร้อมกับครางเสียงต่ำ ยิ่งบอกว่าอย่าแกล้ง ไอ้คนตรงหน้ากลับแกล้งผมหนักขึ้นไปอีก “อืม..ไอ้บ้ามินโฮ... พอได้แล้ว อย่าแกล้ง”

“หึๆ” มินโฮจับมือของผมทั้งสองข้างที่พยายามจะช่วยตัวเองเอาไว้ มันงับหูของผมเล่นพร้อมกับถามด้วยเสียงทุ้มต่ำทรงเสน่ห์ของมัน มันรวบมือของผมไว้ด้วยมือสากหนาข้างเดียว ส่วนอีกข้าง มันกลับเปลี่ยนมาทรมานยอดอกของผมแทน การลูบคลำช้าๆแผ่วๆ สลับกับบดบี้ออกแรงทำให้ร่างกายของผมกำลังปั่นป่วน

“ไม่ไหวแล้ว” ผมเอามือปิดหน้าพร้อมกับบ่นเสียงต่ำ
“บอกมาก่อนสิว่านายชอบไหม”
ผมกัดปากตัวเองแน่นด้วยความอาย “... (-////////////-)”

“ว่าไง นายต้องบอกมาก่อนว่า นายชอบให้ฉันจับนายแต่งตัวแบบนี้รึเปล่า แล้วก็ชอบให้ฉันแกล้งนายแบบนี้ด้วยใช่ไหม” มันพูดที่ข้างหูของผมราวกับต้องการจะสะกดให้ผมอยู่ในภวังค์ “ไม่งั้นฉันจะไม่ทำต่อนะซึงยุนนี่”
“...นายมันพวกนิสัยไม่ดี... ขี้แกล้ง” ผมเริ่มงอแง ปากผมเบะลงมาอย่างงอนๆ

“เร็วๆ ถ้าไม่ตอบ ฉันจะปล่อยให้นายอารมณ์ค้างแบบนี้ทั้งคืนเลย” มันพูดพร้อมกับเชยคางของผมให้หันหลังกลับมาเล็กน้อย ปากหยักได้รูปของมินโฮฟัดเบาๆที่แก้มของผม ผมเกลียดการกระทำของมินโฮที่บางเวลามันเฝ้าทะนุถนอมทั้งตัวของผม แต่พอผ่านไปอีกซักพักมันกลับบดขยี้ผมด้วยอารมณ์รัก ... อย่างเช่นที่มันกำลังทำอยู่ในตอนนี้

“ว่าไงซึงยุน” มันถามซ้ำกระซิบชิดแก้มนุ่มนิ่มของผม
“...ชอบ” ผมบอกเสียงสั่นด้วยความอาย

“เด็กดี” มันหอมแก้มผมแรงๆด้วยความมันเขี้ยว “ไหนตอบมินโฮฮยองคนนี้มาอีกสิว่าตอนนี้นายอยากให้ทำอะไร”
“...นายไม่ใช่ฮยองของฉัน” ผมงอแง

“ปากแข็งนักนะเด็กดื้อ” มันหัวเราะเบาๆก่อนจะจับผมนอนลงกับหมอน ผมรู้ว่ามันอยู่ตรงไหนเพราะความยวบยาบบนเตียง หัวใจผมสั่นระรัวเมื่อผมรู้ว่ามินโฮกำลังคลานไปที่ตรงไหน และผมก็ยิ่งแน่ใจขึ้นไปอีกเมื่อมันจับขาของผมแยกออกด้วยท่าที่น่าอับอายอีกครั้ง “บอกมาเร็วๆว่านายอยากจะให้ฉันทำอะไร”

“...” ผมเอามือสองข้างปิดหน้าของตัวเอง ปากของผมมันเริ่มซี๊ดด้วยความเสียวซ่านอีกครั้งเมื่อมินโฮใช้ปลายนิ้วเกเรของตัวเองไล้ผ่านต้นขาอ่อนด้านในของผม และตอกย้ำขึ้นไปด้วยการใช้ปากเลียเล่นแถวข้อพับตรงหัวเข่า มันกางขาผมมากขึ้นพร้อมกับค่อยๆงับและไล้เลียเบาๆ ความรู้สึกแผ่วๆทำให้ผมแทบจะหายใจไม่ออก

“บอกมาเร็วๆ” มันพูดพร้อมกับขยับตัวเข้ามาชิด มันก้มลงมา และเสียงลมหายใจถี่ๆของมันทำให้ผมรู้สึกได้ว่าตอนนี้หน้าของมินโฮอยู่ที่ด้านหน้าของผม มินโฮจูบอ้อนที่มือเรียวที่ปิดหน้าไว้ของผม “ยุนน่า บอกมาเร็วๆว่านายอยากจะให้ฉันทำอะไร”

ผมกัดปากตัวเองแน่นด้วยความอาย ผมยกเสื้อเชิ้ตของตัวเองขึ้นแล้วก็กระซิบเสียงแหบพร่า “อยากให้นายทำตรงนี้”

ตอนนี้ผมดีใจที่ผมถูกปิดตาเอาไว้ การที่ผมถูกปิดตาไว้ ทำให้ผมกล้าพูดในสิ่งที่น่าอายออกไปแบบเมื่อกี้ และที่สำคัญคือผมไม่ต้องเห็นหน้าของมินโฮว่ามันกำลังทำหน้าดีใจมากขนาดไหนกับคำสารภาพน่าอายเมื่อสักครู่

มินโฮหัวเราะเบาๆด้วยความเอ็นดูก่อนจะกดจูบลงที่ปากของผม ผมจูบตอบด้วยความกระหาย มันดูดปากของผมย้ำๆด้วยความกระหายที่ไม่ต่างกัน

“มาพูดจาทำท่าน่ารักแบบนี้เดี๋ยวคืนนี้นายจะไม่ได้นอนแน่ๆ”

และนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ใช่คำขู่ มินโฮปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตขาวบางจนหมด ผมรู้สึกว่ามันเปิดเสื้อผมออก มือสากของมินโฮทำให้ร่างของผมสั่นสะท้าน มันใช้นิ้วโป้งทั้งสองคนวนเล่นที่ยอดอกของผมก่อนจะก้มลงมาใช้ปากและลิ้นดุนดัน เกี่ยวตวัดจนผมต้องสอดมือเข้าไปในหัวของมันเพื่อระบายความเสียวซ่านที่อีกคนมอบให้

“อือออ... มินโฮ... อย่าทำแค่ตรงนั้นสิ” ผมบ่นเมื่อมินโฮแกล้งที่จะเล่นตรงหน้าอกของผมจนส่วนอ่อนไหวด้านล่างของผมกำลังจะทนไม่ไหว

“งั้นนายก็ต้องบอกมาให้ชัดๆว่านายอยากจะให้ฉันทำอะไร”

“ตอนนี้ฉันอยากเห็นหน้านาย” ผมพูดอ้อน และนั่นก็ทำให้มินโฮใจอ่อนแล้วยอมแกะผ้าที่ปิดตาผมออกทันที มันมองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์กึ่งจะแซวผม

“คิดถึงฉันมากหรอยุน”
“ไม่ต้องมาแซวเลย” ผมเบือนหน้าหนีสายตาที่แทบจะกลืนกินผมเข้าไปทั้งตัว มินโฮหัวเราะเบาๆก่อนจะถอดเสื้อกล้ามของมันออก กล้ามอกแน่นนั่นทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น ผมยันตัวลุกขึ้นมานั่ง ผมโอบรอบคอมันพร้อมกับจูบอ้อน วันนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าทุกที ผมสงสัยว่าจะเป็นเพราะการที่ผมถูกปิดตาเมื่อครู่

มินโฮยกยิ้มมุมปากพร้อมกับหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ มันค่อยๆผลักผมลงนอนบนเตียงอีกครั้ง โดยที่ปากของเราสองคนแทบจะไม่ห่างกันเลย เสียงจูบของเราดังก้องในห้องนอนเงียบๆนี้

มินโฮละออกจากผมแล้วแกล้งจูบเบาๆทั่วทั้งหน้าอกของผม ผมรู้ว่ามันกำลังแกล้งผมอีกแล้ว เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าแค่นี้มันยังไม่พอ...

“มินโฮ อย่าแกล้งสิ”
“นายอยากได้ก็ลองมาเอาไปดูสิ” มันจ้องมาที่ดวงตาคู่สวยของผม ผมมองมันอย่างฉงน และก็ไม่ได้นานนัก คนเจ้าเล่ห์ตรงหน้ายอมเฉลยออกมา “ลองทำดูสิ”

ผมกัดปากแน่นอย่างงอนๆ แล้วยันตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้งก่อนจะผลักไอ้บ้ามินโฮจอมขี้แกล้งให้นอนหงายไปทางด้านหลังของมันมั่ง

มันยิ้มแซวเหมือนจะรู้ว่าผมจะทำอะไร “วันนี้ร้อนแรงจังนะซึงยุน”

ผมกัดปากแน่นพร้อมกับตีที่หน้าอกกว้างไปทีนึงด้วยความอาย “เพราะใครกันเล่าไอ้บ้า”

มันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะจับหน้าอิ่มของผมให้ลงไปจูบที่ปากหยักได้รูปของมัน

“อื้อออ” ผมพยายามจะดิ้น “อย่าสิ”
“แต่ฉันอยากจูบกับนายนี่หน่าซึงยุน” มันพูดอ้อน มันรู้ว่าผมจะทำอะไร แต่ก็ยังบังคับให้จูบแบบนี้ และผมก็ใจอ่อนอีกครั้ง ผมจูบตอบและส่งลิ้นเล็กๆของตัวเองเข้าไป มันใช้ลิ้นอุ่นของตัวเองดุนดันพร้อมกับงับที่ปากล่างของผมเบาๆอย่างเอาใจ ปากของผมเจ่อออกมาเล็กน้อย แต่รสจูบอ้อนๆของมินโฮทำให้ผมเสพย์ติดและสมองเบลอไปหมด ผมไม่สามารถละจากปากหยักได้รูปของมันได้เลย จนในท้ายที่สุด คนด้านล่างเป็นคนที่ยอมละจากการจูบกับผม มันจับตัวผมออกแล้วมองผมอย่างมีเลศนัย ผมมองค้อนกลับอย่างงอนๆ คนตรงหน้าทำไมถึงชอบแกล้งผมมากขนาดนี้

“นี่เป็นครั้งแรกที่นายจะทำอะไรแบบนี้เลยนะ” มันพูดด้วยเสียงดีใจปนประทับใจ “ฉันดีใจจัง”

ผมทุบที่อกมันอีกที “ถ้านายยังพูดมาก ฉันจะไม่ทำแล้วนะ” และนั่นก็ทำให้ซงมินโฮจอมแกล้งยอมรูดซิปปากไป

ผมค่อยๆยันตัวขึ้นแล้วก็จับส่วนอ่อนไหวของมินโฮสอดแทรกเข้ามาทางช่องทางรักอันคับแน่นของผม

“อืออออ..” ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ทำให้ผมแทบจะระเบิดความต้องการออกมาทันที มันเป็นความรู้สึกที่ผมสามารถจะบังคับได้ด้วยตัวเอง แต่ความใหญ่โตของคนด้านล่างผสมกับความคับแน่นของผมมันกลับสวนทางกัน ฮึก... ผมเจ็บ... (T ////// T)

“ช้าๆ .... ยุนน่า... ผ่อนคลายหน่อยสิ” มันพูดกำกับด้วยเสียงที่แหบพร่าและช่วยประคองที่บั้นท้ายเล็กๆของผม มันค่อยๆลุกขึ้นมานั่งอย่างช้าๆ มันจูบเบาๆที่ตรงปลายหางตาของผมที่มีน้ำตาซึม “ค่อยๆนะ”

“อืม” ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ผมสวมกอดมันไว้อย่างหลวมๆ ความใหญ่โตของมินโฮตอนแรกนั้นทำให้ผมเจ็บสะท้าน แต่เมื่อผมเริ่มชินแล้ว ความใหญ่โตนั้นกลับทำให้ร่างของผมสลายละลายลงไปอยู่ที่เตียง

“เจ็บมากรึเปล่า ไหวไหม” ผมพยักหน้าแล้วยิ้มให้คนตรงหน้าบางๆ ผมชอบความรู้สึกนี้ ผมรู้สึกดีที่มีมินโฮคอยปลอบ คอยพะเน้าพะนอเอาใจแบบนี้ ผมหอบหายใจเร็วๆด้วยความตื่นเต้น

ปกติเวลาเรามีอะไรกัน ร่างกายของผมจะเกิดอารมณ์เป็นปกติอยู่แล้ว แต่มันไม่มากเท่าตอนนี้...

ผมพยายามจะปล่อยตัวเองให้จมลงไปมากที่สุด และทุกครั้งที่มีการเสียดสี ใจของผมนั้นจะเต้นระรัว ขนลุกซู่ไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่าน ผมคิดว่าความรู้สึกที่เอ่อล้นมากขนาดนี้มาจากความรู้สึกดีที่ได้การครอบครองซงมินโฮได้ทั้งหมดและผมสามารถที่จะคุมจังหวะด้วยตัวของผมเอง ผมลองเริ่มขยับช้าๆอีกครั้งโดยมีมินโฮคอยช่วยประคอง ผมขยับขึ้นลงด้วยท่าทางเคอะเขิน

“มองนายแบบนี้แล้วยิ่งทำให้ฉันยิ่งตื่นเต้น” มันพูดด้วยใบหน้าที่เหยเกไปด้วยความกระหายอยากในตัวผม มันเลียที่คางบุ๋มของผม ก่อนจะใช้สายตาโลมเลียจนผมรู้สึกหมดแรงลงไปดื้อๆ

มินโฮยิ้มแซวก่อนจะจับผมลงนอนกลับเตียงอีกครั้ง “หมดแรงแล้วหรอลูกหมาน้อยของฉัน”
“ไอ้บ้า” ผมบ่นพร้อมกับตีอกกว้างของมันเบาๆ

มันขยับเข้ามาในร่างของผมจนสุดโดยไม่ให้ผมได้ตั้งตัว
“อ๊ะ... ไอ้มินโฮ!” ผมบ่นพร้อมกับกัดปากแน่น มินโฮแกล้งทำแบบนี้อีกหลายครั้งจนผมหายใจแทบไม่ทัน มันค่อยๆถอนร่างออก ผมงับผ้าห่มเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงครางออกมา

“อยากครางก็ครางออกมาสิ” มินโฮพูดแซว
“ไม่... ” ผมตอบ

“แหน๊ะ ทำแบบนี้มันน่าจะโดนหนักกว่านี้นะว่าไหม”
“ถ้าพรุ่งนี้ฉันนอนหลับเป็นตายแล้วไปทำงานไม่ไหว..”

“นายจะฆ่าฉันให้ตายใช่ไหมล่ะ” มินโฮพูดต่อจากที่ผมพูด “ฉันฟังประโยคนี้จนเบื่อแล้วล่ะ แล้วก็จะบอกนายด้วยว่า ฉันยอมตาย ถ้าได้ตายในหน้าอกนุ่มนิ่มของนาย”
“ไอ้มินโฮ!”

“จะบอกว่าเกลียดฉันใช่ไหม” มันถามพลางจูบอ้อนที่ปากอิ่มของผม “แต่ฉันรักนายนะซึงยุน รักมากด้วย”
และมันไม่ได้บอกผมเพียงอย่างเดียว มันกระทำให้ผมดูด้วย มินโฮแกล้งขยับเข้ามาจนผมสะท้านไปทั้งร่างและปล่อยคาไว้แบบนั้น ความต้องการของผมถูกทำให้ขึ้น-ลงสลับกันไปจนหัวปั่น

“เลิกแกล้งฉันซักที!” ผมบ่นพลางทุบไปที่อกกว้างของมัน

“บอกรักฉันก่อนสิ คังซึงยุน” มันทำหน้าเจ้าเล่ห์และแกล้งถอนกายออกแล้วขยับเข้ามาใหม่จนผมสะดุ้งอย่างไม่ทันตั้งตัว หน้าผมแดงก่ำเมื่อนึกถึงคำที่มันกำลังต่อรองให้ผมพูด

“ทำไมฉันต้องบอก”
“เพราะถ้านายไม่บอก ฉันก็จะแกล้งนายแบบนี้ไปเรื่อยๆน่ะสิ” มันพูดและแกล้งผมแบบเดิมอีกครั้ง

ผมกัดปากตัวเองด้วยเสียวซ่าน ความไม่ต่อเนื่องทำให้ผมแทบคลั่งตาย ผมมองมันด้วยสายตาตำหนิ แล้วก็เอื้อมมือลงไปเพื่อที่อย่างน้อยผมจะได้ช่วยปลดปล่อยร่างกายของตัวเองก่อน แต่คนตรงหน้ากลับไม่ยอม มันขยับแรงๆอีกครั้งจนผมหน้าเหวอ มันขยับตัวขึ้นมาแล้วล็อคมือผมไว้กับเตียงนุ่ม “อย่าหวังว่าจะได้ทำอะไร ถ้านายยังไม่บอกรักฉัน”

“... ปล่อยเดี๋ยวนี้นะไอ้หมีบ้า”
“บอกรักฉันก่อนสิซึงยุน” มันพูดพร้อมกับจูบอ้อนที่ปากของผมเบาๆ
“ไม่!”

มันหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของมันดูอารมณ์ดีแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ มันกดจูบไปที่หน้าอกของผมแรงๆ สลับกับจูบเบาๆที่ยอดอก มันดูดเนื้อขาวนวลให้เป็นรอยจ้ำแดงๆ สลับกับกดจูบพร้อมตวัดลิ้นเล่นช้าๆที่ยอดอก

ความแผ่วเบาๆสลับกับความแรงหนักหน่วงทำให้ร่างกายของผมปั่นป่วน

“หยุดแกล้งฉันซักที” ผมพยายามดิ้นให้หลุด แต่คนตรงหน้ามีแรงเยอะกว่า มันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วก็ยื่นหน้ามาถามผมอีกครั้ง

“บอกว่ารักฉันก่อน แล้วจะเลิกแกล้ง”
“...”

“ไอ้พวกปากแข็ง” มันยิ้มแซว “แต่ฉันรู้แหละ นายไม่ได้ปากแข็งหรอก นายแค่อยากให้ฉันแกล้งนายแบบนี้ต่างหาก ใช่ไหมล่ะคังซึงยุน”

“...” หน้าผมร้อนวาบขึ้นมาอีกครั้งราวกับถูกจับได้ว่าทำอะไรผิด “ฉันเกลียดนาย ไอ้มินโฮ”
“เอาดีๆ เกลียดหรือรัก?” มันถามพร้อมกับยกยิ้มอย่างเจ้าชู้

“...รัก (-////////////-)”
“เด็กดี” มันยิ้มอ้อนพร้อมกับเริ่มขยับให้จังหวะนั้นเร็วมากยิ่งขึ้น

“อ๊ะ อือ...มินโฮย่า” ผมผวากอดคนตรงหน้าด้วยความตกใจไม่ทันได้ตั้งตัว มือของผมสอดเข้าไปในผมของมินโฮเพื่อต้องการระบายความเสียวซ่านออกไป

ผมนึกแปลกใจตัวเองที่วันนี้ไม่ใช่ผมที่เป็นฝ่ายถูกจูบอย่างเอาใจ แต่กลับกลายเป็นผมที่ต้องการจะจูบกับมันอย่างกระหายในเวลาแบบนี้ เวลาที่เรากำลังมีอะไรกัน ...

มินโฮจูบตอบผมอย่างอ้อนๆ เราสองคนหายใจเป็นจังหวะเดียวกัน ผมคว้าเอาผ้าห่มของมินโฮมาเพื่อที่จะงับไว้เพื่อไม่ให้ครางออกมาเสียงดัง เพราะผมมั่นใจว่าความร้อนแรงของเราสองคนในตอนนี้จะต้องได้ยินกันไปทั่วทั้งหอพักแน่ๆ

มินโฮรูดรั้งส่วนอ่อนไหวของผมเร็วๆ พร้อมกับสอดใส่ที่ช่องทางรักของผมไปด้วย
“มินโฮย่า...” ผมเรียกชื่อของมันด้วยเสียงที่อู้อี้ผ่านผ้าห่ม “ฉันจะ...ไม่ไหวแล้ว”
มันยิ้มแล้วจูบที่ปากของผมผ่านผ้าห่มที่ผมงับไว้ “ปล่อยออกมาเถอะ... ฉันก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”

และหลังจากนั้นไม่นานนัก ผมและมินโฮก็ปลดปล่อยน้ำรักออกมาในเวลาเกือบจะใกล้เคียงกัน มินโฮถอนกายออกไปจากผมและนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างตัวผม มันนอนยิ้มมองผมเหมือนคนบ้า “วันนี้นอนนี้นะ ไม่ต้องกลับไปที่ห้องหรอก”
“ไม่เอา” ผมพยายามจะลุกขึ้นแต่ มันกดผมให้นอนลงอีกครั้ง

“ลุกไม่ไหวหรอก นอนนี่แหละ” มินโฮพลิกตัวมานอนตะแคงแล้วสอดมือเข้าไปใต้หัวของผม มันดึงตัวผมเข้าไปซุกอยู่ในอ้อมกอด ผมงอแงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

“วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ตามใจฉันหน่อยสิคังซึงยุน”
“ก็ได้ แต่พรุ่งนี้ฉันจะตื่นแต่เช้ากลับไปนอนห้องตัวเองนะ”

“วงเล็บว่าถ้านายตื่นไหวนะยุน” มันหัวเราะจนผมตีอกมันไปอีกหนึ่งที
“อย่าให้ถึงคราวฉันบ้างละกัน”

“ถ้าคราวที่นายอยากทำแบบนี้ หรือปิดตาฉัน ฉันบอกเลยว่า ถ้าเป็นเรื่องหื่นล่ะก็ ฉันเต็มใจ และเปิดกว้าง อ้าแขนรอรับนายทันที”
“ไอ้หื่น...”

“ขอบคุณนะ วันนี้จะเป็นวันวาเลนไทน์ที่ฉันจะไม่มีวันลืมได้เลย นายเป็นของขวัญที่น่ารักที่สุดตั้งแต่ฉันได้รับมา” มันพูดอ้อนพร้อมกับจูบเบาๆที่หน้าผากของผมพร้อมกับลูบท้ายทอยของผมช้าๆ ความรู้สึกง่วงกำลังจะมาลักพาตัวผมไปอีกครั้ง...
“ได้ของขวัญมาเยอะสินะ” ผมบ่น
“นอน!”

เราสองคนหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่ความง่วงจะมาลักมาเอาตัวเราสองคนไป...



Happy Valentine’s day!

Reply · Report Post