[OS] เพราะมีชีวิตอยู่ [พานซันเหลียน(?)]







“คิดถึงเจ้าหมานั่นอยู่รึไง”


“.....เปล่าซะหน่อย”









เซี่ยเหลียนหวนร้องเหอะ เบนสายตากลับไปมองผืนป่าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตาเหมือนเดิม



“แกพูดถึง แสดงว่าแกนั่นแหละคิดถึง”


“ฉันแค่เดาใจแกได้ต่างหาก”


อู๋ซันเสิ่งส่งเสียงหึกลับไป สูดควันบุหรี่เข้าปอดอีกครั้ง


บ้านริมเชิงเขาสองชั้นที่มองเห็นวิวป่าเขาลำเนาไพร เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นบ้านพักให้คนแก่ๆสองคนอย่างพวกเขา










คนที่สิ้นสุดแล้วซึ่งตัวตนบนโลกใบนี้









จุดมุ่งหมายยาวนานของพวกเขาสำเร็จแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะปรากฏตัวอยู่ในยุทธภพอีกต่อไป


บัดนี้....เป็นเพียงผู้เฝ้ามองเท่านั้น










แต่ชีวิตที่ทำได้แค่มองนี่ก็น่าเบื่อชะมัด... อู๋ซันเสิ่งพบว่าชีวิตตัวเองในแต่ละวันไร้จุดหมายอย่างยิ่ง


ตื่นมา หากไม่หาเรื่องตามดูหลานชายตัวปัญหา ก็ได้แต่ทำความสะอาดบ้านไปวันๆ


เขากับเหลียนหวนมักจะออกไปตามดูความเป็นไปของบุคคลต่างๆอยู่เสมอ


คนที่เฝ้าดูบ่อยที่สุด หนีไม่พ้นอู๋เสีย ตามมาด้วยเซี่ยอวี่เฉินที่เซี่ยเหลียนหวนชื่นชอบที่จะเฝ้ามองเป็นพิเศษ







เจ้าหลานชายน่าเป็นห่วงมากๆ หลายครั้งที่เขาอยากจะเข้าไปตบกะโหลกแต่ก็ทำไม่ได้ ผิดกับเสี่ยวเฉินของเหลียนหวนคนนั้นที่ทำหน้าที่ได้ไม่มีที่ติ


....แต่ตอนนี้อู๋เสียก็พอดูแลตัวเองได้แล้วล่ะนะ....


ออกจากบ้านพักไปตามดูคนอื่นในแต่ละครั้งกินแรงไม่น้อย ปกติเขาสองคนใช้เวลาสามสี่วันตามข่าวสารแล้วก็เดินทางกลับบ้านสู่ชนบทอันห่างไกล










เฝ้าดูก็คือเฝ้าดู....มีความสุขที่เขาเหล่านั้นมีความสุข เป็นห่วงเมื่อเขาเหล่านั้นประสบปัญหา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น..


ช่วงหลังๆมานี่เขากับเหลียนหวนก็แทบไม่ได้เดินทางไปไหนแล้ว นานๆครั้งจริงๆจึงจะออกไป


จะด้วยสังขารหรืออะไรก็แล้วแต่ อู๋ซันเสิ่งเริ่มคิดว่าตัวเองตอนนี้มีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกันแน่


....เขา....ยังคงอยู่ไปเพื่ออะไร?













‘...พูดอย่างนี้คิดจะฆ่าตัวตายรึไง’


‘........’


‘.....ซันเสิ่ง...ไม่คิดว่าคนอย่างแกจะคิดอะไรงี่เง่าอย่างนี้ด้วยนะ’


เจ้าเหลียนหวนหัวเราะสดใสในรอบปีเลยก็ว่าได้ แต่ตัวเขาในยามนั้นไม่มีอารมณ์ตอบโต้ซักนิด เพียงมองคนที่เสมือนเป็นฝาแฝดของตนนิ่งๆ


เซี่ยเหลียนหวนหัวเราะจนพอใจแล้วก็หันมาสบตาเขา มุมปากมีรอยยิ้มจางๆอย่างหาได้ยาก






‘สำหรับฉัน ชีวิตในตอนนี้ถือว่าไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว อาจจะเพราะตัวตนของฉันบนโลกนี้มันหายไปนานแล้ว เลยไม่รู้สึกแตกต่างซักเท่าไหร่’


‘คงอยู่ไปเพื่ออะไรงั้นหรือ นั่นสิ ที่ฉันยังคงมีชีวิตอยู่ อาจจะเป็นเพราะแก’


รอยยิ้มนั้นกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย


‘ฉันกลายเป็นเงาของแก เป็นส่วนหนึ่งของแก เพราะฉะนั้นในเมื่อแกยังมีชีวิตอยู่ ฉันก็จะมีชีวิตอยู่ด้วย’


‘แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันมีชีวิตอยู่เพื่อแกหรอกนะ การเฝ้ามองสำหรับฉันก็เป็นความบันเทิงอยู่แล้ว’


อู๋ซันเสิ่งอดยิ้มกับประโยคนั้นไม่ได้ เจ้าเหลียนหวนนานๆทีจะพูดดีกับเขาขนาดนี้


‘สำหรับแก ถ้าถามฉันว่าตอนนี้แกควรจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร...........’


เหลียนหวนผินหน้ามองท้องฟ้าสีครามเบื้องบน














‘ฉันคงจะบอกให้แกคิดถึงใครหลายๆคนที่ทำเพื่อแก พวกเขาที่ไม่อยู่แล้ว คิดว่าจะดีใจไหม ถ้าแกตามไปด้วยวิธีนั้น’


‘เหวินจิ่นจะต้องโกรธจนดึงหูแกขาด เตี่ยแกก็จะต้องเอาไม้ฟาดแกจนเดินไม่ได้’


‘เจ้าหมาบ้านั่นก็คงจะไม่ดีใจ ถ้าแกไปพบมันด้วยวิธีนั้น’


‘สุดท้าย.....พี่รองจะต้องโกรธมากแน่ๆถ้าแกทำอย่างนั้น’


อู๋ซันเสิ่งหัวเราะออกมาเสียงดัง จนคนที่อยู่ข้างๆต้องกระแอมสองสามทีให้ฟังต่อ


‘ในเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ก็คือมีชีวิตอยู่ อย่าทำลายสิ่งล้ำค่านั้นลงด้วยความคิดโง่ๆ’


‘ฉันจะไม่บอกให้แกอยู่เพื่อฉันที่เป็นเงาของแกหรอกนะ พูดตั้งขนาดนี้ โตแล้ว ที่เหลือก็ไปคิดเอง’


พูดจบเหลียนหวนก็หมุนตัวเดินหนีไปเลย เขาคิดว่าเจ้านั่นคงจะเขินอยู่แน่ๆ ปกติไม่เคยพูดอะไรยาวๆแบบนี้


‘ขอบคุณ...เหลียนหวน’












เพราะฉะนั้น อู๋ซันเสิ่งจึงใช้ชีวิตอยู่กับเซี่ยเหลียนหวนต่อไป...........จนกว่าชีวิตนี้จะสิ้นสุด.......








-------------






“ป่านนี้หมาของแกคงส่ายหางระริกระรี้อยู่ ที่แกคิดถึงมัน”


“ผิดแล้ว หมาของ ‘เรา’ ต่างหาก”


เซี่ยเหลียนหวนเลิกคิ้ว


“แกเป็นคนเก็บมา ก็ต้องเป็นหมาของแกสิ”


“ฉันเป็นคนเก็บมา แต่เราช่วยกันเลี้ยง ก็ต้องเป็นหมาของ ‘เรา’สิ”


...เจ้าซันเสิ่งพูดอะไรเอาแต่ใจตลอด...


“ไม่คิดว่ามันจะทำหน้างงรึไงตอนเราไปเจอมัน เจ้านายดันมีสองคน”


“มันก็ต้องรู้ตั้งแต่มันตายแล้ว เขาว่าตายแล้วจะรู้ทุกอย่างนี่ เจ้านั่นก็ต้องรู้นานแล้ว”


“แล้วคิดว่ามันจะรับได้รึไง?”


อู๋ซันเสิ่งตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ


“แกก็คือฉัน ฉันก็คือแก ไม่ว่าคนไหนต่างก็เป็นเจ้านาย ถ้าเจ้าหมานั่นรับแกไม่ได้ล่ะก็ มันก็ไม่ใช่หมาของฉัน”


เซี่ยเหลียนหวนได้แต่ส่ายหน้าอ่อนใจ


...เอาเถอะ...


“ก็ได้....หมาของ ‘เรา’ ก็ของเรา”







END



***********************************

ก่อนอื่นขอบคุณน้องเมย์ที่จุดประกายความคิดเราเมื่อวานค่ะ 555555

เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนถึงอาเหลียนหวน คิดว่าหลุดคาร์ไปเยอะมากแน่ๆ แหะๆ /โดนตี

ช่วงกลางๆรู้สึกออกทะเล....มันกลายเป็นงี้ได้ไง แงง 55555

ตอนแรกว่าจะฟีลดราม่าเบาๆ แต่แบบ.... 55555

กลายเป็นงี้เฉยเลย Y/w/Y

Reply · Report Post