Pain (...)




จางฉี่หลิงนอนอยู่ เปลือกตาปิดสนิท ลมหายใจสม่ำเสมอ แต่ผมรู้ดีว่า เขาพร้อมจะขยับลุกขึ้นมา หากสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

หากนั่นคือตัวเขาในสมัยก่อน จางฉี่หลิงที่ผมรู้จัก

แต่ทว่า เขากลับไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาสามวันเต็มๆแล้ว



ผมเองก็นั่งอยู่อย่างนี้มาสามวันแล้วเช่นกัน ในห้องนอนมืดสนิท มีเพียงแสงสลัวลอดผ่านผ้าม่าน บุหรี่มวนแล้วมวนเล่าถูกจุดสูบจนดับมอด จนรู้สึกขมฝาดในลำคอก็ยังไม่หยุดสูบ

กวาดตามองซากก้นกรองที่หล่นเกลื่อนเต็มห้อง ถ้าไม่อาศัยพวกมันผมคงสงบใจลงไม่ได้


"เสี่ยวเกอ.." ผมเริ่มส่งเสียงเรียก อย่างที่ทำมาตลอดสามวัน หากก็นิ่งงัน ไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนอง

"จางฉี่หลิง" ผมเรียกอีก "อาคุน เสี่ยวจาง ศาสตราจารย์จาง นายใบ้จาง" ยิ่งเรียกลมหายใจของผมก็ยิ่งติดขัด

"นายแม่ง..จะไม่ตื่นขึ้นมาอีกจริงๆเหรอ" ประโยคสุดท้ายถูกเค้นออกมาอย่างยากลำบาก จากนั้นก็ไอโขลกๆ ลิ้นสัมผัสถึงรสเลือดที่ตีขึ้นมา

ผ่านช่วงเวลายากลำบากมามากมาย จากที่เคยคิดว่าจุดจบแบบไหนผมก็รับได้ แต่ความสิ้นหวังที่ถ่วงหนักอยู่ในอกนี้คืออะไร

เจ็บ..ทั้งที่เคยบอกตัวเองว่าไม่ควรอ่อนแออีก


เถ้าบุหรี่หล่นลง พร้อมเชื้อไฟสุดท้ายที่เหลืออยู่

สามวันแล้ว โอกาสสุดท้ายที่มอบให้ตัวเองจบลงพร้อมความล้มเหลวไม่เป็นท่า ผมมองเขม็งยังใบหน้าคนที่นอนอยู่อีกครั้ง ต่อให้จ้องจนตาแทบถลนก็ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ


นายจะจบเรื่องทั้งหมดไปทั้งแบบนี้ใช่มั้ย แบบนี้ก็เท่าเทียมดี นายไม่ยอมกลับมา ฉันคนเดิมก็จะหายไปตลอดกาลเหมือนกัน

ยื้อจนสุดจะยื้อแล้ว..

ผมพลันลุกขึ้น ออกจากห้องนี้ไปผมจะกลับเป็นเถ้าแก่อู๋คนเดิม ใส่หน้ากากใบเดิม

กลบฝังความอ่อนแอตลอดสามวันนี้ไว้..


---


สะดุ้งตื่นเพราะฝันค่ะ ฝันร้าย แย่มาก
ลุกขึ้นมาพิมพ์ไว้ก่อน จะได้นอนต่อถถถ

Reply · Report Post