ที่สนามบิน ยุนโฮไม่ได้เหวี่ยง ดุ หรือด่า อย่างที่ทุกคนเข้าใจ

จากเหตุการณ์ในคลิป http://youtu.be/pSAms9rfE-s ซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายใกล้ที่สุด

จากภาพในคลิปจะเห็นยุนโฮได้ถอดแว่น แล้วเดินออกมาหนึ่งก้าว แล้วจะตะโกนว่า "Excuse me!" เนื่องจากในสถานการณ์นั้นแฟนๆต่างส่งเสียงดัง จึงทำให้เขาต้องใช้เสียงดังในการพูดคำนี้ออกมา จากนั้นเขาก็ทำมือในเชิงเป็นการบอกว่า ให้หลีกทาง ขอทางหน่อย

1. การที่ยุนโฮถอดแว่น ถือว่าการกระทำที่แสดงถึงความจริงใจ สิ่งที่จะกระทำต่อไปคือสิ่งที่พูดจริงๆด้วยความจริง ซึ่งเป็นการกระทำที่แสดงถึงเคารพและสุภาพ
- การใส่แว่นดำพูดหรือตะโกนออกไปนั้น จะเป็นการกระทำที่เหมือนกับทางทหาร ซึ่งจะให้ดูเหมือนเป็นการแข็งกร้าวหรือบางครัี้้งอาจจะดูก้าวร้าวจนเกินไป
ดังนั้นการที่ยุนโฮถอดแว่นก่อนจึงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่แสดงถึงความสุภาพ เพราะเขาแคร์แฟนคลับมากกว่าใครๆ ไม่อยากให้แฟนคลับรู้สึกไม่ดีกับการกระทำที่แข็งกร้าวถ้าเขาใส่แว่นดำพูด

2. การที่ยุนโฮเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว (โดยที่ชางมินยังไม่เดิน) เป็นการสื่อถือเขาจะพูด หรือต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะ เพราะเขาเป็นหลีดเดอร์ และสถานการณ์ในขณะนั้นเกินกว่าที่ บอดี้การ์ด ตำรวจ จนท.สนามบินจะจัดการได้

3. ยุนโฮ พูดภาษาอังกฤษ ด้วยคำว่า "Excuse me" ซึ่งเป็นคำที่ถือว่าสุภาพมากที่สุดในประโยคขอร้อง ซึ่งก็แปลได้ว่า ขออภัยครับ ขออนุญาตครับ ขอประทานโทษครับ ขอความกรุณาครับ แม้กระทั่งแปลได้ว่า ขอโทษครับ

4. การที่ยุนโฮต้องตะโกน เพราะบริเวณนั้นเสียงดังมาก ดังนั้นเขาจึงต้องตะโกน เพือให้ทุกคนได้ยิน

5. การที่ยุนโฮทำมือให้หลีกทาง/ขอทาง ก็เป็นการทำที่สุภาพกว่าการที่เขาพูดออกมา คือเขาต้องการที่สื่อว่า "ขอทางให้ผมหน่อยครับ" แบบจริงจังๆ

จากสถานการณ์โดยรวมทั้งคำพูดและการกระทำแล้ว ยุนโฮต้องการสื่อความหมายว่า "ขออภัยครับ ช่วยหลีกทางให้ผมหน่อยครับ" เพือ่เป็นการแก้ไขสถานการ์ที่ค่อนข้างจะย่ำแย่ในขณะนั้น
เพราะสถาณกาณ์ในตอนนั้นบอดี้การ์ดคงรับไม่ไหวแน่ เนื่องจากว่า ตลอดเส้นทางที่พวกเขาเดินมาก็วุ่นวายตลอด ไม่ว่าเป็นแฟนคลับที่เบียดกันจนล้มระเนระนาด ทั้งต่อหน้าดงบังชินกิ และหลังดงบังชินกิเดินผ่านไปแล้ว ข้าวของบริเวณทางเดินล้มกระจาย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่บอดี้การ์ด ตำรวจ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่สนามบินเองไม่อาจควบคุมให้อยู่ได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของศิลปินเองที่จะต้องออกมควบคุมสถานการณ์ เพราะแฟนคลับจะเชื่อฟังให้ความเกรงใจกับศิลปินมากกว่าใครใดๆทั้งสิ้น
ฉะนั้น นี่จึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ศิลปินจะต้องทำ เพื่อรักษาความสงบ ความปลอดภัยกับทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนั้น เพื่อไม่ให้สถานการณ์ย่ำแย่ไปกว่านี้

ก่อนหน้านี้ยุนโฮไม่เคยต้องทำอะไรอย่างนี้ ถ้ามันเกินกว่าที่เขาจะทนได้จริงๆเขาก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ทุกอย่างเกิดความเสียหาย และเกิดความเลวร้าย หรือเจ็บปวดไปกว่านี้ เพราะพวกเขาเป็นที่เกรงใจคนอื่นมาก ไม่อยากให้ใครต้องมาลำบาก เจ็บตัว หรือวุ่นวายเพราะพวกเขา

จะเห็นได้แล้วว่าจากเหตุการณ์นี้ คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แม้กระทั่งตัวพวกเราเองหรือตัวศิลปินเอง เข้าใจว่าทุกคนอยากเจอหน้าพวกเขาแบบชัด ตัวเป็นๆ คิดถึง ไม่ได้เจอกันนานมาก แต่ในบ้างครั้งเราต้องควบคุมตัวเองให้ได้ ต้องไม่ทำให้ความรักของเราไปทำร้ายพวกเขาซึ่งเป็นคนที่เรารักมาก ดังนั้น นี่จึงถือเป็นบทเรียนที่ทุกคนต้องจดจำไว้ และต้องไม่ทำให้เกิดขึ้นซ้ำอีก ต่อไปเราต้องช่วยกันแก้ไข และสร้างความทรงจำที่ดีๆไปกับพวกเขา อะไรที่แล้วมาก็ถือว่าเป็นบทเรียนและไม่นำกลับมาทำอีก
เพราะชางมินและยุนโฮเคยพูดไว้ว่า "We Love Thailand" ทุกครั้งที่มาประเทศไทย...
และจำไว้ว่า... "พวกเขารักประเทศไทย"

Reply · Report Post