Lookkaew_SK

Lookkaew · @Lookkaew_SK

7th Mar 2011 from Twitlonger

[Video with Eng Sub] ความเห็นของยุนโฮและชางมินเรื่องคดีฟ้องร้องในรายการ Knee Drop Guru (วันที่ 2 มี.ค. 2011)
Yunho and Changmin’s comment on the lawsuit on Knee Drop Guru (2 Mar, 2011)

credit: DC TVXQ Gallery via wordpress
แปลไทย: ลูกแก้วใสกิ๊งระริ๊ง (@Lookkaew_SK)

คุณรู้จักรายการทอล์คโชว์เกาหลีที่เรียกว่า “Knee Drop Guru” ไหม? มันเป็นรายการที่ค่อนข้างโด่งดังในประเทศเกาหลีที่ออกอากาศมาประมาณ 4 ปี มีดาราหลายต่อหลายคนที่ปรากฎตัวในรายการ รายการนี้แตกต่างจากรายการทอล์คโชว์อื่นๆ ในเชิงที่ว่ารายการนั้นเชิญบุคคลทางสังคมอย่างนักท่องเที่ยวอาชีพ นักปีนเขาอัลไพน์ ผู้พากย์กีฬาเบสบอล นักพัฒนาวัคซีนคอมพิวเตอร์หรือนักเล่นไวโอลินมาเป็นแขกรับเชิญในรายการแทนที่จะเชิญแค่เหล่าศิลปิน

ไม่มีทางเลยที่จะไปเปรียบเทียบกับรายการนี้กับรายการทอล์คโชว์ของโอปราห์ วินฟรีย์ แต่รายการนี้เคยได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกมากมายเพราะรายการให้ผู้ชมมีโอกาสได้รับฟังแขกรับเชิญซึ่งปกติแล้วจะไม่มีโอกาสได้ออกสื่อกว้างขวางและมีโอกาสได้แอบเห็นจุดยืนจริงๆ ของเขา/เธอผ่านคำตอบต่อคำถามที่ละเอียดอ่อน (หรืออาจถึงขั้นก้าวร้าว?) จากพิธีกร ชาวเกาหลีเคยรักรายการนี้เพราะพวกเขาสามารถเรียนรู้ความฉลาดเฉลียวและความรู้อันมีค่าเกี่ยวกับชีวิตของแขกรับเชิญซึ่งแทบจะไม่ค่อยได้ออกโทรทัศน์หรือปรากฎตัวต่อสาธารณชน

แต่รายการนี้กำลังหันเหไปจากแนวทางเดิม เพราะว่าหมดวัตถุดิบจะทำรายการและไม่มีแขกรับเชิญที่เหมาะสมให้เชิญมาแล้วหรือเปล่า? รายการซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีอิทธิพลมากถึงขนาดขึ้นเป็นพาดหัวข่าวของนิตยสารและข่าวบันเทิงทุกฉบับแค่เพียงแต่ได้รับเชิญในรายการนี้ กำลังจะค่อยๆ สลายกลายเป็นเพียงแค่ช่องทางให้บอกเล่าเรื่องราวเศร้าโศกของคนบางคน โดยปราศจากเศษเสี้ยวของความเฉียบคมในอดีตและรายการกลายเป็นโรงงานเคลือบน้ำตาลที่เพียงแค่เอาประสบการณ์ในอดีตของแขกรับเชิญมาจัดให้เป็นห่อสวยหรู ซึ่งปกติในอดีตจะต้องดึงคำวิจารณ์จากสาธารณชนได้

ในเชิงนั้นเอง รายการได้ร่วงไปถึงจุดต่ำสุดด้วยตอน TVXQ act II หลายๆ คนอาจจะคิดว่าสิ่งที่สองคนพูดในรายการนั้นเป็นเรื่องจริงเพราะภาพลักษณ์ในอดีตของรายการที่อนุญาตให้แขกรับเชิญได้เปิดเผย 'เรื่องราวที่ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับชีวิตของเขา/เธอ' นั่นเป็นความตั้งใจตั้งแต่ตอนของพวกเขาหรือ? ทั้งสองคนพูดแทนบริษัท SM ในรายการที่ครั้งหนึ่งเคยเปิดเข้าหาสาธารณชนด้วยความจริงใจ

อย่างที่ทั้งสองคนได้กล่าวมาหลายต่อหลายครั้ง พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีฟ้องร้องระหว่างบริษัท SM กับสมาชิกสามคนของ TVXQ คือ JYJ มันไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาจะต้องมายืนอยู่กลางปัญหา และพวกเขาไม่มีสิทธิ์จะมาอธิบายหรือยืนกรานความคิดเห็นเรื่องนี้ การให้ความเห็นกับประเด็นนี้มากขึ้น มันจะทำให้ดูเหมือนสมาชิกสองคนกำลังเลือกเข้าข้างและไม่ว่าจะเป็นข้างไหนก็ตามที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะ 'เลือก' สิ่งเดียวที่จะเป็นผลตามมาก็คือ การถกเถียงกันอีกครั้งหนึ่ง

ถึงกระนั้น ตั้งแต่การให้ข่าวแถลงการณ์ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ปี 2009 พวกเขาได้กล่าวแทนบริษัท SM Entertainment ในคดีฟ้องร้องอีกนับครั้งไม่ถ้วน พวกเขาได้พูดซ้ำความคิดเห็นของบริษัท SM ผ่านคำพูดของตนเองในการสัมภาษณ์ และคำแถลงการณ์ของพวกเขาก็ยืนยันว่าสาเหตุของคดีฟ้องร้องนั้นมาจาก 'ธุรกิจเครื่องสำอาง' อย่างที่บริษัท SM ได้ยืนยันมาแต่ต้น ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาได้ออกปรากฎตัวในรายการวาไรตี้มากมายเหมือนกับศิลปินเกาหลีคนอื่นๆ และพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากการกลับมาในฐานะ TVXQ act II อย่างไรก็ตาม แฟนๆ หลายต่อหลายคนเครียดมากกว่าทุกครั้งตอนที่มีข่าวออกมาว่าทั้งสองจะปรากฎตัวในรายการ "Knee Drop Guru" เพราะว่าคติพจน์ของรายการ "Knee Drop Guru" คือว่า 'เผชิญหน้ากับประเด็นละเอียดอ่อนอย่างตรงๆ' แฟนๆ หวังอย่างจนหนทางว่าทั้งสองจะไม่พูดซ้ำคำเดิมที่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังในรายการ

อาจจะหวังมากเกินไป

ทั้งสองกล่าวแทนบริษัท SM อย่างเด็ดเดี่ยวและไม่ได้มีแม้เพียงคำพูดสักคำเดียวที่เป็นของตัวเองในเรื่องสัญญาจ้างที่ไม่เป็นธรรมแม้ว่าศาลจะรับรู้และออกมาตรการคำสั่งให้แก้ไขแล้วก็ตาม แม้ว่า 'ความคิดเห็น' ของพวกเขา มันไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าแฟนๆ ได้เห็นใจให้สถานการณ์ของสมาชิกทั้งห้าคนกับสัญญาจ้างที่ไม่เป็นธรรมและพยายามดิ้นรนที่จะแสดงสภาพการทำงานทีดีขึ้นสำหรับสมาชิกทั้งห้าคนเท่าที่กำลังจะทำได้ มันน่าเสียดายที่ไม่เพียงแต่ทั้งสองปฏิเสธความพยายามของแฟนๆ แต่ยังกระทำการที่สุดท้ายแล้วกลายเป็นการทำร้ายสมาชิกสามคนผู้ซึ่งครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเห็นว่าเป็นเหมือนพี่น้อง

มันจะเหมือนรูปแบบการเชิญแขกรับเชิญของรายการ "Knee Drop Guru" เช่นเดิมมากกว่าไหม ถ้าจะเชิญผู้ที่เสียเปรียบ ผู้ที่ถูกละไม่ให้ออกโทรทัศน์นานาชาติ หรือแม้กระทั่งช่องเคเบิ้ลทีวี? มันไม่ใช่ความตั้งใจของผู้อำนวยการสร้าง "Knee Drop Guru" หรือที่จะอนุญาตให้คนบางคนที่ปกติไม่เคยได้เป็นที่รับฟังทางโทรทัศน์ได้มีโอกาสถูกรับฟังบ้าง? ตอนนี้รายการลดระดับเหลือเป็นเพียงกล่องที่มีมุมมองของบริษัทบริหารขนาดใหญ่ที่ผูกขาดสื่อในทุกๆ ด้านและห่อทับด้วยความ 'เป็นกลาง' และความตื่นเต้นจอมปลอม

ในคลิปวิดีโอสั้นๆ ด้านล่างนี้ ยูโนว์ ยุนโฮและแมกซ์ชางมินจากวง TVXQ ผู้ได้เคยแถลงว่าสาเหตุของการเกิดคดีฟ้องร้องนั้นมีเหตุผลมาจาก 'ธุรกิจเครื่องสำอาง' อย่างที่เต็มที่ ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการที่พวกเขาได้ลงนามไว้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2009 ได้กล่าวถึงเบื้องหลังคดีฟ้องร้องของสมาชิกทั้งสามคนในโทรทัศน์ทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง เพียงแค่ครั้งนี้พวกเขามีคำอธิบายที่ต่างไปจากเดิม ถ้าคุณอยากจะอ่านคำแถลงการณ์ของพวกเขา คลิกที่นี - (http://dctvxqgall.wordpress.com/2011/03/02/official-statements-of-
yunho-and-changmin-released-on-nov-1-2009/)

___________________________________________________________

[คลิปวิดีโอ - http://www.youtube.com/watch?v=u4piFlMjXgo]

คำบรรยายจากคลิปวิดีโอ (T/N หมายเหตุ: YH - ยุนโฮ, CM - ชางมิน)

[...จากนั้นประสบการณ์ที่ลำบากที่สุดก็มาถึง...]
พิธกร: วันที่ 31 กรกฎาคม ปี 2009 เพื่อนของคุณสามคนได้ยื่นขอคำสั่งศาลชั่วคราวเพื่อระงับผลสัญญาจ้างผูกขาดกับบริษัท [บริหาร] แม้กระทั่งสำหรับเรา นี่ก็เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมาก ผมอยากจะกล่าวให้ชัดเจนอีกครั้งว่าในฐานะของพิธี ผมมีจุดยืนเป็นกลางครับ
YH: ครับ
พิธีกร: การยืนอยู่ในฐานะของยุนโฮหรือชางมินเป็นยังไงบ้างครับ? ความรู้สึกของคุณน่ะครับ?
YH: ตอนนั้นมันน่าตกใจครับ ใช่ การต่อต้านบริษัท...
CM: ยื่นขอคำสั่งศาล...
YH: ตอนที่พวกเขายื่นขอคำสั่งศาล พวกเราไม่ทราบเรื่องครับ ดังนั้นตอนที่เราได้ยินข่าวโดยไม่ทราบเรื่องมาก่อนเลย ผมเสียใจมากครับ..
พิธีกร: ทำไมเรื่องนี้ถึงต้องเกิดขึ้นครับ? ผมขอถามความเห็นส่วนตัวคุณหน่อยครับ
YH: อืมม... พวกเราประสบความสำเร็จในระยะเวลาสั้นๆ ตอนที่อายุยังน้อยและตอนที่สุดท้ายพวกเราบรรลุเป้าหมายยิ่งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นด้วยเหมือนกัน ผมคิดว่า [พวกเขา] หลงเลยเถิดไป... และผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้เรามาเป็นสถานการณ์ในตอนนี้ ดังนั้นส่วนตัวแล้ว มันทำให้ผมใจสลายครับ... นี่ก็ที่ผมคิด ผมกล้าจะพูดว่า.. การเลือกที่จะฟ้องร้องนั้น...
CM: มันรุนแรง...
YH: ... เลือกทางที่รุนแรงอย่างการฟ้องร้องนั้นทำให้ผมเสียความรู้สึกในฐานะสมาชิกของวงเดียวกันครับ

พิธีกร: จากประสบการณ์ อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดครับ?
YH: แน่นอนว่าส่วนตัวแล้วผู้คนรอบข้างผมเข้าใจผมผิด... แฟนๆ บางคนเรียกผมว่าคนทรยศและผมก็ทนได้นะครับ.. แต่เมื่อพอผลกระทบนี้เริ่มไปถึงยังพ่อแม่และครอบครัวซึ่งผมรักและเคารพมากที่สุด...
CM: มันมีบทความที่รายงานต่อสาธารณชนและหนึ่งในนั้นก็อาจมีบทความที่โจมตีพ่อแม่ของเรา จริงไหมครับ? อีกอย่างคือคุณพ่อของผมยังเป็นครูอยู่ และสำหรับคนอายุน้อยๆ แล้ว พวกเขาไม่ทราบสถานการณ์ดีนักและพวกเขาอาจจะหลุดปากออกมาต่อหน้าคุณพ่อของผม แค่คิดถึงว่าเขาจะเสียใจแค่ไหนตอนได้ยินคำพูดเหล่านั้นหรือว่าน้องสาวของเราอาจจะต้องเติบโตขึ้นด้วยแผลเป็นในหัวใจเพราะมีเพื่อนๆ รอบข้างแบบนั้นน่ะครับ... ความเจ็บปวดและความเครียด?

พิธีกร: ท่ามกลางความขัดแย้งทั้งภายนอกและภายใน การแสดงครั้งสุดท้ายของสมาชิกทั้งห้าคนแห่งวง TVXQ ที่เราเห็นคือที่ NHK Kouhaku Uta Gassen ในปี 2009 คุณทราบไหมครับว่าครั้งนั้นจะเป็นการแสดงครั้งสุดท้าย? คุณรู้สึกยังไงบ้างตอนที่มีสมาชิกห้าคนอยู่บนเวทีเดียวกัน...
CM: ผมเช็คตารางงานและเห็นว่างานสุดท้ายที่มีกำหนดเขียนไว้คือ Kouhaku Uta Gassen ไม่มีการวางแผนงานหลังจากนั้นครับ การได้แสดงในรายการที่ยิ่งใหญ่อย่าง Kouhaku Uta Gassen นั้นน่าประทับใจมาก แต่ความคิดที่ว่า 'นี่อาจจะเป็นการแสดงบนเวทีครั้งสุดท้ายที่เราแสดงกันแบบสมาชิกทั้งห้าคน' อยู่ในหัวของผมครับ เราอาจจะใช้ประโยชน์จากความสำเร็จในเกาหลีมากกว่านี้ก็ได้แต่เราไปประเทศญี่ปุ่นและเริ่มต้นในฐานะศิลปินใหม่ ผ่านมาได้และตอนนั้นเราเพียงแต่ต้องเก็บเกี่ยวผลผลิตจากแรงงานที่ลงไป [คดีฟ้องร้อง] ดังนั้นผมก็เลยคิดอยู่ตลอดว่าทำไมผมถึงต้องร้องเพลงด้วยหัวใจเศร้าๆ ที่คิดว่านี่อาจจะเป็นการแสดงสุดท้ายร่วมกัน ในขณะที่เราควรจะฉลองกันมากกว่า? ความเศร้า... ทำนองนั้น? ผมรู้สึก
อย่างนั้นครับ
พิธีกร: แล้วคุณล่ะครับ ยุนโฮ?
YH: ผมรู้สึกไม่สบายใจตอนร้องเพลงบนเวทีนั้นเหมือนกันครับ ผมกลัวที่จะคิดว่านั่นรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดอาจจเป็นครั้งสุดท้าย [ของพวกเรา] ผู้ซึ่งเคยเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อเป้าหมายเดียวกันและแบ่งปันความทรงจำร่วมกันมากมาย ผมร้องเพลงให้หนักขึ้นเพราะผมคิดว่าการแสดงหน้าเศร้าจะหมายถึงว่าผมยอมรับมันแล้วครับ

พิธีกร: คุณมีช่วงเวลาว่างที่ไม่ได้ทำงาน?
YH: ครับ จริงๆ คือสองปีและสามเดือนครับ
พิธีกร: อะไรคือสิ่งที่ยากที่สุดตอนที่คุณเตรียมอัลบั้มในประเทศครับ?
YH: อ๋อ เราต้องทำเพลงของ TVXQ ด้วยสมาชิกเพียงแค่สองคนครับ จุนซู แจจุงและยูชอนต่างก็มีพรสวรรค์มากๆ และเราก็ทราบดี แสดงมากขนาดนั้นด้วยสมาชิกเพียงแค่สองคนมันพูดง่าย แต่...
พิธีกร: แน่นอนครับ *หัวเราะ*
YH: การบ้านชิ้นโตของเราก็คือการหาวิธีเต็มเติมช่องว่างนั่นครับ เราอยู่ซ้อมจนดึกดื่นหลังจากที่ศิลปินฝึกหัดต่างกลับกันไปหมดแล้ว
พิธีกร: นั่นคือเพลง "Why" ที่ออกมาหลังจากเวลาสองปีและสามเดือน ผมดูข้อมูลและมันน่าประทับใจนะครับ อันดับหนึ่งชาร์ต Oriconประจำสัปดาห์และเดือน และอันดับหนึ่งเพลงที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุด ถ้าคุณแค่มองที่ชาร์ต Oricon TVXQ เป็นศิลปินที่มีซิงเกิ้ลอันดับหนึ่งจำนวนมากที่สุดในศิลปินต่างชาติทั้งหมดนะครับ
YH: ครับ
พิธีกร: ถูกไหมครับ?
YH: ผมปลื้มนะครับ แต่ถูกครับ *หัวเราะ*
พิธีกร: การไปถึงจุดนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นผมไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าคุณจะรู้สึกยังไง
YH: สิ่งที่ทำให้ผมดีใจที่สุดกว่าอะไรทั้งหมดคือแฟนๆ ที่รอเรานานมากครับ ผมอยากจะแสดงความซาบซึ้งเป็นอย่างแรกครับ

[ปัญหาของ TVXQ?? เราจะทำยังไงดีให้มีฐานแฟนคลับที่เป็นผู้ชายมากกว่านี้? ในที่สุดก็แก้ปัญหาได้!]
พิธีกร: Knee Drop Guru! ปัญหา Knee Drop! เราจะทำยังไงดีให้มีฐานแฟนคลับที่เป็นมากกว่านี้? ผมจะบอกให้ทราบเดี๋ยวนี้ครับ!
พิธีกร 2: ถ้าอยากจะมีแฟนๆ ผู้ชายมากขึ้นทันใด!! ให้ไปเกณฑ์ทหารครับ~~~ *หัวเราะ*
พิธีกร: ทหารทั้งหกแสนคนจะเป็นแฟนพวกเขาทันทีเหรอครับ?
พิธีกร 2: ครับ
พิธีกร: จบสวยเลย
พิธีกร 2: คุณตื่นเต้นเกินไปตอนเริ่มนะครับ *หัวเราะ*
พิธีกร: ผมจะทำให้ดาราเต็มไปด้วยพลังเชิงบวกครับ โปสเตอร์นี่คืออะไร?
พิธีกร 2: TVXQ ผู้ไร้เทียมทาน เรื่องราวยิ่งใหญ่ว่า TVXQ กลายเป็นสิ่งที่เอาชนะไม่ได้ในโลกเสียงเพลงได้อย่างไร สำหรับการรวมตัวกันที่ยิ่งใหญ่ในโลกแห่งเสียงเพลง ผู้บุกเบิกยุนโฮและเจ้าชายรัชทายาทชางมินได้สร้างวง TVXQ ซึ่งกุมหัวใจแฟนๆ ผู้หญิงและมีมนตร์สะกดกระทั่งแฟนๆ ผู้ชายที่หลบซ่อนอยู่ใต้ร่มเงา และสุดท้ายก็ขึ้นครองตลาดเพลงทั่วโลก ว่ากันว่าผู้คนที่ได้เห็นปรากฎการณ์นี้ได้แต่ถามกันว่าทำไม? ทำไม? หลังจากได้ชมการแสดงของพวกเขาบนเวที คนเหล่านั้นก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก "ก้มหัวเอาไว้" (Keep your head down) เรื่องราวยิ่งใหญ่ของ TVXQ เร็วๆ นี้ครับ!!! *ปรบมือ*
พิธีกร: TVXQ ผู้เอาชนะการทดสอบและกลับมาอย่างผู้ชายที่เติบโตมากขึ้น!! ตอนนี้พุ่งทะยานอย่างพระเจ้าแห่งตะวันออก! TVXQ!! ในฐานะของความภูมิใจในโลกแห่งเสียงเพลงเกาหลี!! จะอยู่ตลอดไป~~~
[เราขอบคุณยูโนว์ยุนโฮและแมกซ์ชางมินสำหรับการแบ่งปันเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมากับพวกเราครับ]

___________________________________________________________

แต่พวกเขาหาคำอธิบายว่าเรื่องคดีฟ้องร้องของสมาชิกทั้งสามมันเป็นง่ายๆ แม้ความจริงแล้วทั้งสามจะต้องเสี่ยงอาชีพที่พยายามทำงานสร้างมาอย่างหนักทั้งชีวิตอย่างที่สมาชิกสองคนเล่าได้อย่างไร? เราอยากจะถามว่าในใจจริงๆ แล้วคืออะไร พวกเขาเชื่อจริงๆ หรือไม่ว่าทั้งสามยื่นฟ้องร้องเพียงเพราะพวกเขา 'หลงเลยเถิด' จากความสำเร็จได้ที่มาใน 'ช่วงพริบตา'? สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่ามันยากขนาดไหนที่สมาชิกทั้งสามตัดสินยืนฟ้องร้องบริษัท SM Entertainment โปรดอ่านบทความที่นี่ (http://dctvxqgall.wordpress.com/2011/03/06/interview-jyj-christmas-itll-probably-be-just-the-three-of-us-eating-makchang-and-drinking-soju/)

ลองถามตัวเองดู เขาจะไม่ทราบได้อย่างไรในฐานะหัวหน้าทีมว่าสมาชิกของวง TVXQ เองกำลังวางแผนจะดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัท? สมาชิกทั้งสามยื่นฟ้องร้องนั้นก็หมายถึงความเป็นความตายของทีมเลยทีเดียว พิจารณาถึงความหนักหนาของสถานการณ์ ถ้าเขาไม่ได้ทราบมาก่อนล่วงหน้า มันก็พิสูจน์ถึงความล้มเหลวและไม่มีความสามารถในฐานะผู้นำที่จะรับรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นในทีมและทำให้สมาชิกเป็นหนึ่งเดียวกัน ในทางหนึ่ง เขาอาจจะถูกโทษว่ามีส่วนรับผิดชอบในการแยกวงสำหรับการละเลยความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าวง

แม้กระทั่งว่าเราจะก้าวถอยหลังไปเป็นพันก้าวเพื่อให้มีพื้นที่มากพอจะบอกว่าคำยืนยันของเขานั้นเป็นความจริง แต่เขาไม่ควรจะพูดอะไรเลยเกี่ยวกับคดีฟ้องร้อง เขาจะทราบเหตุผลที่มีการฟ้องร้องได้อย่างไรถ้าไม่ได้ทราบเรื่องมาตั้งแต่ตอนแรก? คำอธิบายเดียวที่เขาให้ได้ก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าทั้งสองไม่ได้ทราบเรื่องคดีฟ้องร้อง พวกเขาจะมีสิทธิ์อะไรที่จะยกเรื่องนี้มาพูดในที่สาธารณะ? พวกเขาคาดว่าจะให้แฟนๆ เข้าใจว่า 'หัวหน้าวง TVXQ' ไม่ทราบเรื่องคดีฟ้องร้องงั้นหรือ? พวกเขาพูดถึงผลผลิตจากแรงงานที่ลงไปและการเก็บเกี่ยว โปรดอย่าลืมว่านั่นคือความรักและการสนับสนุนของแฟนๆ ที่ทำให้มีการอุปโภคสินค้าของ TVXQ และพลังงานซื้อที่ยิ่งใหญ่นี่เป็นแรงผลักดันช่วยให้ TVXQ ขึ้นไปยังจุดสูงสุด

ในฐานะผู้อุปโภคบริโภคและแฟนๆ ที่สนับสนุนการฟ้องร้องต่อบริษัท SM ในเรื่องสัญญาจ้างที่ไม่เป็นธรรมเพื่อที่จะมีการทบทวนสัญญาโดยหวังว่าจะมีประโยชน์ต่ออีกสองคนด้วย พวกเราไม่สามารถแสดงออกถึงความโกรธ ความผิดหวังและความรู้สึกของการถูกหักหลังมากพอสำหรับการที่พวกเขาปฏิเสธความพยายามของเราที่จะสนับสนุนการฟ้องร้องและปัดทิ้งการสนับสนุน TVXQ ของเราแม้กระทั่งการก่อนการฟ้องร้องว่าเป็นอะไรที่พวกเขาสามารถ 'เก็บเกี่ยว' ได้ง่ายๆ

Reply · Report Post